สตาร์บัคส์ คอร์ป เชนร้านกาแฟรายใหญ่สุดของโลก เตรียมปลดพนักงาน 6,700 คน และปิดสาขาเพิ่มอีก 300 แห่ง หลังกำไรไตรมาสแรกร่วงหนักเกินคาด
โดยบริษัทวางแผนปิดสาขา 200 แห่งในสหรัฐ และอีก 100 แห่งในต่างประเทศ เพิ่มเติมจาก 600 สาขาซึ่งทางบริษัทประกาศว่าจะปิดเมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนพนักงานที่ถูกปลดจะมาจากคอฟฟีช็อป 6,000 คน และจากฝ่ายสำนักงานอีก 700 คน
โฮเวิร์ด ชูลท์ซ ซีอีโอของบริษัท ออกโรงเตือนเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า กำไรของสตาร์บัคส์อาจน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากยอดขายในเดือนพ.ย.ค่อนข้างย่ำแย่ และการประกาศปลดพนักงานและปิดสาขาในวันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนลดต้นทุนของบริษัท
นอกจากนั้นนายชูลท์ซยังขอให้บอร์ดบริหารปรับฐานเงินเดือนของเขาในปีงบการเงิน 2552 ให้น้อยกว่า 10,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่ 1.2 ล้านดอลลาร์ต่อปีในปี 2551 ในขณะเดียวกันบริษัทก็ตัดสินใจขายเครื่องบินเจ็ทของบริษัทจนเหลือเพียงลำเดียว
"สิ่งที่พวกเขาสมควรทำในช่วงเศรษฐกิจซบเซาเช่นนี้คือการปรับตัวให้เข้ากับรายได้ที่ลดลง" ชารอน แซ็คเฟีย นักวิเคราะห์จากบริษัท วิลเลียม แบลร์ แอนด์ โค ในชิคาโก กล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน