เมอร์ริล ลินช์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนอาจดีดตัวขึ้นในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ เนื่องจากดีมานด์ในประเทศพุ่งขึ้นแซงหน้ายอดส่งออกที่ลดลง
เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างหนักในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 โดยผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 6.8% ในไตรมาส 4 จากปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับระดับที่ขยายตัว 9% ในไตรมาส 3 และ 13% ในปี 2550 เนื่องจากอุปสงค์สินค้าประเทศจีนที่ซบเซาจากสหรัฐและยุโรป รวมถึงการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว
ในช่วงไตรมาสแรก การส่งออกอาจร่วงลงอีก แต่ความต้องการภายในประเทศมีแนวโน้มว่าจะกระเตื้องขึ้น ถึงกระนั้นก็ตาม ความเหลื่อมล้ำของดีมานด์และการส่งออกที่ไม่สอดคล้องกันนี้จะเป็นตัวสกัดกั้นการขยายตัวของ GDP ให้อยู่ในระดับเดียวกันช่วงไตรมาส 4 ปี 2551
อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ภายในประเทศที่สูงขึ้นจะแซงหน้าความต้องการจากต่างชาติจะช่วยให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นนับตั้งแต่ไตรมาส 2 และเราค่อนข้างเชื่อมั่นว่า GDP จะขยายตัวได้ประมาณ 8% ในปีนี้ จากปัจจัยบ่งชี้เศรษฐกิจรายเดือนที่สำคัญ เช่นผลผลิตอุตสาหกรรม ผลผลิตด้านพลังงาน และยอดค้าปลีกที่จะฟื้นตัวขึ้น
ทั้งนี้ การขยายตัวของผลผลิตอุตสาหกรรมประจำเดือนธ.ค.ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 5.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีจากระดับ 5.4% ในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ ผลผลิตไฟฟ้าลดลง 7.9% แต่เป็นระดับที่ดีขึ้นจากที่ดิ่งลง 9.6% ในเดือนพ.ย. สำนักข่าวซินหัวรายงาน