คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) มีมติให้ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศทุกชนิดอีกลิตรละ 1.55 บาท/ลิตร ยกเว้น แก๊สโซฮอล์ E 85 โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป หลังมาตรการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันตามโครงการ 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤตเพื่อคนไทยทุกคน ซึ่งสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ม.ค.นี้
"ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอัตราหนึ่งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 นี้ ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดยกเว้น E85 เพิ่มขึ้นประมาณ 1.55 บาทต่อลิตร" นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ในฐานะประธาน กบง.กล่าว
เมื่อวานนี้ ครม.มีมติให้ปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันหลังสิ้นสุดมาตรการดังกล่าว ดังนี้ น้ำมันเบนซินทุกประเภทจากอัตราปกติเดิม อยู่ที่ 3.685/4.685 บาท/ลิตร เพิ่มเป็น 5 บาท/ลิตร, แก๊สโซฮอล์ E 10 และ E 20 ปรับขึ้นจาก 0.0165 บาท/ลิตร เป็น 4.5 และ 4 บาท/ลิตร ตามลำดับ (อัตราปกติเดิมอยู่ที่ 3.3165 บาท/ลิตร)
ส่วนแก๊สโซฮอล์ E 85 ปรับจาก 0.0165 บาท/ลิตร มาเป็น 0.750 บาท/ลิตร(อัตราปกติเดิมที่ 2.5795 บาท/ลิตร)
น้ำมันดีเซล กำมะถันน้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.035 ปรับขึ้นภาษีจาก 0.005 บาท/ลิตร เป็น 3.305 บาท/ลิตร(อัตราปกติเดิม 2.305 บาท/ลิตร) , ดีเซลกำมะถันมากกว่า 0.035 ปรับจาก 2.405 บาท-ลิตร เพิ่มเป็น 4 บาท/ลิตร(อัตราปกติที่ 2.405 บาท/ลิตร), ไบโอดีเซล(B5) จาก 0.0898 บาท/ลิตร เพิ่มเป็น 2.190 บาท/ลิตร(อัตราปกติเดิม 2.1898 บาท/ลิตร)
หาก กบง.ไม่มีมติดังกล่าวออกมาจะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับเพิ่มขึ้นดังนี้ เบนซิน 95 และ 91 เพิ่มขึ้นลิตรละ 1.55 บาท เป็นลิตรละ 33.74 และ 25.14 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 เพิ่มขึ้นลิตรละ 5.28 บาท เป็นลิตรละ 24.17 และ 23.37 บาท, แก๊สโซฮอล์ E20 เพิ่มขึ้นลิตรละ 4.69 บาทต่อลิตร เป็นลิตรละ 22.28 บาท, ดีเซล B2 เพิ่มขึ้นลิตรละ 3.88 บาท เป็นลิตรละ 22.22 บาท และดีเซล B5 เพิ่มขึ้นลิตรละ 2.47 บาท เป็นลิตรละ 19.31 บาท
ขณะที่ราคาขายปลีกน้ำมันตามสถานีบริการในเขตกรุงกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นดังนี้ เบนซิน 91 อยู่ที่ลิตรละ 23.59 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ลิตรละ 18.89 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ลิตรละ 18.09 บาท, แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ลิตรละ 17.59 บาท, แก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ลิตรละ 18.29 บาท, ดีเซล B2 อยู่ที่ลิตรละ 18.34 บาท, ดีเซล B5 อยู่ที่ลิตรละ 16.84 บาท
รมว.พลังงาน กล่าวว่า หลังจากนี้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศจะทยอยปรับเพิ่มอีกครั้งละไม่เกินลิตรละ 1.50 บาท ซึ่งจะปรับมากกว่า 1 ครั้ง เพื่อให้อัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ กลับไปอยู่ในอัตราเดิม โดยจะพิจารณาปรับในช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน ซึ่งต้องใช้เงินจากกองทุนน้ำมันฯ เพื่อชดเชยประมาณ 4,311 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินเข้ากองทุนฯ จากเบนซิน 91 เพิ่มขึ้นเป็นลิตรละ 4 บาท เพื่อรักษาส่วนต่างราคาขายปลีกระหว่างน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ อีกทั้งได้เห็นชอบในการกำหนดหลักเกณฑ์ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ใน 3 หลักการ คือ ราคา ณ โรงกลั่น 15% ของราคาเบนซิน 95 + 85% ของราคาเอทานอล, ให้ค่าการตลาดของ E85 สูงกว่า E10 ประมาณลิตรละ 1.20 บาท และราคาขายปลีก E85 ต้องต่ำกว่าราคาขายปลีก E10 ในระดับ 30%
"รัฐบาลได้ส่งเสริมให้ประชาชนใช้พลังงานทดแทนตามนโยบายของประเทศอย่างต่อเนื่อง เพราะยิ่งประชาชนหันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้นก็จะช่วยลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศได้" นพ.วรรณรัตน์ กล่าว