นักวิเคราะห์คาดยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน-ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐลดลงในเดือนธ.ค.

ข่าวต่างประเทศ Thursday January 29, 2009 16:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐในเดือนธ.ค.มีแนวโน้มลดลงเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 5 เดือน ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่ส่อเค้าดิ่งลงหนักสุดในรอบ 26 ปี ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐที่ยืดเยื้อยาวนาน

โพลล์สำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์จากโพลล์ของบลูมเบิร์กคาดว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนธ.ค.ร่วงลง 2% หลังจากที่ทรุดตัวลง 1.5% ในเดือนพ.ย.ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่อาจลดลง 2.5% ไปอยู่ที่ 397,000 ยูนิตซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2525 เมื่อเทียบกับระดับ 407,000 ยูนิตในเดือนพ.ย.

บริษัทหลายแห่งนับตั้งแต่เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป ไปจนถึงแคเทอร์พิลลาร์ อิงค์ต่างปรับลดกำลังการผลิตเนื่องจากขาดแคลนเงินกู้ นอกจากนี้ ยังมีการปรับลดการจ้างงานซึ่งส่งให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย ขณะที่เศรษฐกิจโลกเลวร้ายได้ส่งผลกระทบต่อความต้องการจากต่างประเทศ

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยวานนี้ว่า ทางการพร้อมที่จะทุ่มเทความพยายามในการคลี่คลายตลาดสินเชื่อมากขึ้น นอกเหนือไปจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้เสนอมาจนผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฏรเมื่อคืนนี้

"บริษัทหลายแห่งต้องปรับตัวให้เข้ากับวิกฤตอุปสงค์ตกต่ำด้วยการลดกำลังการผลิตลงอย่างหนัก" เควิน โลแกน นักวิเคราะห์จาก Dresdner Kleinwort ในนิวยอร์กกล่าว "สถานการณ์ต่างๆจะเลวร้ายลงอย่างหนักในช่วงครึ่งแรกของปีนี้"

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีกำหนดรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเวลา 8.30 น. พร้อมทั้งเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ในเวลา 10:00 น.วันนี้ตามเวลาในเวลากรุงวอชิงตัน (คืนนี้ตามเวลาในประเทศไทย)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ