รมว.พาณิชย์ เตรียมนำนักธุรกิจไปโรดโชว์ที่อินเดีย หวังเพิ่มมูลค่าการค้า

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 29, 2009 17:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสาทิต เซกัล ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ และประธานหอการค้าไทย-อินเดีย เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 12-13 ก.พ.นี้ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ จะนำคณะนักธุรกิจไทย ประกอบด้วย ตัวแทนจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เดินทางไปเยือนประเทศอินเดียอย่างเป็นทางการ เพื่อเพิ่มความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพและได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกน้อย โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันภายในปีนี้เป็น 7,500 ล้านเหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันประมาณ 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 4-7 ก.พ.52 รมว.พาณิชย์ จะเดินทางร่วมคณะไปกับนายกรัฐมนตรี เพื่อไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่น

โดยการเดินทางไปเยือนประเทศอินเดียครั้งนี้ รมว.พาณิชย์ มีกำหนดหารือกับ รมว.การค้าและอุตสาหกรรมของอินเดีย และ รมว.ที่ดูแลรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย 7 รัฐ โดยจะเร่งรัดให้อินเดียส่งรายการลดภาษีตามข้อตกลงการค้าเสรี(เอฟทีเอ) ไทย-อินเดีย ตามพิกัดภาษีศุลกากรใหม่ปี 2550 มายังไทย เพื่อสรุปข้อตกลงก่อนให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

นอกจากนี้จะหารือถึงการเพิ่มการลงทุนระหว่างกัน โดยไทยต้องการให้อินเดียเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมหนัก เช่น อุตสาหกรรมเหล็กที่อินเดียเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ส่วนด้านบริการนั้นอาจมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู) การเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยจากปัจจุบันอินเดียใช้สถานที่ในไทยผลิตภาพยนตร์ประมาณปีละ 100 เรื่อง โดยต้องการให้เพิ่มให้ 150 เรื่องในปีนี้

ส่วนแผนการเข้าไปลงทุนของไทยในอินเดียนั้นจะเข้าไปโปรโมต และส่งเสริมการเปิดร้านอาหารไทยให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 20 ร้าน คาดว่า ภายใน 5 ปีจะเพิ่มเป็น 2,000 ร้าน เพราะอาหารไทยเป็นที่นิยมเทียบเท่าอาหารจีน ที่ปัจจุบันมีร้านค้าในอินเดียมากกว่า 2,000 ร้าน หากแผนนี้ประสบความสำเร็จจะทำให้พ่อครัวแม่ครัวไทยมีงานทำในอินเดียเพิ่มขึ้น เพราะอาชีพนี้ได้รับการส่งเสริมภายใต้เอฟทีไทย-อินเดียด้วย

สำหรับธุรกิจบริการไทยที่มีโอกาสขยายตัวในอินเดียได้อีกมาก ได้แก่ ธุรกิจสปาที่อินเดียต้องการให้ไทยเข้าไปร่วมลงทุนกับนักธุรกิจท้องถิ่น ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว กำหนดให้ภายในปี 2554 จะให้นักท่องเที่ยวอินเดียเข้ามาเที่ยวในไทยเพิ่มเป็น 1 ล้านคน จากปัจจุบันประมาณ 500,000 คนต่อปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ