มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่าเงินดอลลาร์ไต้หวันจะอ่อนค่าลงแม้เงินหยวนของจีนจะแข็งค่าขึ้น เนื่องจากประเทศที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลักจะได้รับผลกระทบหนักสุดจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก
โดยมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่าในปีนี้เงินดอลลาร์ไต้หวันอาจอ่อนค่าลงเกือบ 5% แตะ 35.3 ดอลลาร์ไต้หวันต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2545
"รากฐานของเงินดอลลาร์ไต้หวันถูกทำลายหลังบัญชีเดินสะพัดเกินดุลหดตัวลง อันเป็นผลมาจากบัญชีขาดดุลที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีเงินไหลออกนอกประเทศมากเกินไป" สจ๊วต นิวแฮม นักยุทธศาสตร์จากฮ่องกงกล่าว "เม็ดเงินในไต้หวันอาจไหลออกมากขึ้นหากไต้หวันถูกปรับลดระดับเครดิตและความวิตกเกี่ยวกับระบบการเงินกลายเป็นความจริง"
เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์ไต้หวันอ่นค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ที่ 33.79 ดอลลาร์ไต้หวันต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังรัฐบาลเผยยอดส่งออกที่ร่วงหนักเป็นประวัติการณ์ ในขณะเดียวกันฟิทช์ เรทติ้งส์ ก็ปรับลดอันดับหนี้ของไต้หวันจาก "stable" เป็น "negative"
เงินดอลลาร์ไต้หวันซื้อขายอยู่ที่ระดับ 33.57 ดอลลาร์ไต้หวันต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 23 ม.ค.ซึ่งเป็นวันก่อนที่ตลาดจะปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีน หลังจากที่อ่อนค่าลงรวม 1.3% ในปี 2551
ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จากการสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า เงินดอลลาร์ไต้หวันจะอ่อนค่าลง 2.1% แตะ 34.30 ดอลลาร์ไต้หวันต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อสิ้นสุดปีนี้
ทั้งนี้ ยอดส่งออกไต้หวันร่วงหนักเป็นประวัติการณ์ถึง 42% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนบัญชีเดินสะพัดเกินดุลหดตัวลงเหลือ 2.01 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน