กระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศของญี่ปุ่นรายงานว่า อัตราว่างงานเดือนธ.ค.ยืนอยู่ที่ระดับ 4.4% เพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งใหญ่สุดในรอบกว่า 40 ปี โดยตัวเลขว่างงานในเดือนธ.ค.มีอยู่ทั้งสิ้น 2.70 ล้านคน พุ่งขึ้น 340,000 คนจากปีที่แล้ว
-- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมภายในประเทศเดือนธ.ค.ร่วงลง 9.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 เดือน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยส่งผลให้ดีมานด์รถยนต์, สินค้าอิเล็กทรอนิก และสินค้าส่งออกหลักๆของญี่ปุ่น ทรุดตัวลงอย่างหนัก
-- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐออกโรงตำหนิบริษัทในวอลล์สตรีทที่จ่ายเงินโบนัสมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งๆที่ยังต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาล ชี้เป็นพฤติกรรมที่ "น่าละอาย" และ "ไร้ความรับผิดชอบอย่างที่สุด"
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลงกว่า 14.7% เหลือ 331,000 หลัง ในเดือนธ.ค.2551 ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และต่ำกว่าระดับของปี 2550 ถึง 44.8%
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค.2551 ร่วงลง 2.6% ซึ่งทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ต่อจากระดับที่ดิ่งลง 3.7% ในเดือนพ.ย. และร่วงลงแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะตกลง 2%
-- คณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยว่า ปัจจัยชี้นำความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป และ กลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร หรือ ยูโรโซน ลดลงแตะระดับต่ำสุดระดับใหม่ในเดือนม.ค.
-- ญี่ปุ่นเผยยอดผลิตยานยนต์ในประเทศร่วงลงกว่า 25.2% เหลือ 725,552 คันในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งถือว่าลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และลดลงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2510
-- บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขขาดทุนสุทธิปีงบการเงินซึ่งสิ้นสุด ณ เดือนมี.ค.ปีนี้ เป็น 4 แสนล้านเยน (4.5 พันล้านดอลลาร์) จากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 1.50 แสนล้านเยน (1.7 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มคาดการณ์ครั้งที่ 3 และเป็นสถิติที่ขาดทุนครั้งแรกในรอบ 70 ปี เนื่องจากยอดขายทั่วโลกทรุดตัวลงอย่างหนัก