กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) หดตัว 3.8% ในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.2551 เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัว 0.5% ถือเป็นการปรับตัวลงอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2525 และนับเป็นครั้งแรกที่จีดีพีสหรัฐซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดในโลก ร่วงลงติดต่อกันสองไตรมาส นับตั้งแต่ที่เคยหดตัวลงติดต่อกันในไตรมาสสี่ปี 2533 และไตรมาสแรกปี 2534
ทั้งนี้ แม้ตัวเลขจะดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์กันไว้ว่าจะหดตัว 5.4% แต่นักวิเคราะห์หลายรายมองว่าอาจเป็นส่งสัญญาณว่าไตรมาสแรกของปีนี้อาจจะเลวร้ายยิ่งกว่า ท่ามกลางวิกฤตการเงินและสินเชื่อ รวมถึงตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังซบเซาหนัก
กระทรวงฯระบุว่า ตัวเลขจีดีพีที่ลดลงในไตรมาสสี่สะท้อนถึงสาเหตุหลักๆคือ การส่งออกที่อ่อนแอ การใช้จ่ายส่วนบุคคลที่ลดลง การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมต่างๆที่หยุดชะงัก
ขณะที่ เศรษฐกิจตลอดปี 2551 โตขึ้นเพียง 1.3% ซึ่งลดลงจากอัตราขยายตัว 2% ในปี 2550 และ 2.8% ในปี 2549