นักวิเคราะห์คาดอัตราว่างงานเดือนม.ค.สหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี

ข่าวต่างประเทศ Monday February 2, 2009 06:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า อัตราว่างงานเดือนม.ค.ในสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี และคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) เดือนดังกล่าวจะร่วงลง 530,000 ตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นการร่วงลงติดต่อกันยาวนานถึง 13 เดือน เนื่องจากยอดขายที่ตกต่ำลงส่งผลให้บริษัทเอกชนแห่ลดการจ้างงาน

กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.ในคืนวันศุกร์ที่ 6 ก.พ.(ตามเวลาประเทศไทย) นอกจากนี้ จะมีการรายงานข้อมูลด้านการผลิต การบริการ และภาคอสังหาริมทรัพย์

ภาวะดีมานด์ที่ทรุดตัวลงและสถานบันการเงินเข้มงวดด้านการปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้บริษัทจำนวนมาก รวมถึง แคทเทอร์พิลลาร์ และเจนเนอร์รัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) เลิกจ้างพนักงานและกำลังการผลิตเพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของสินค้าคงคลัง ทั้งนี้ ความวิตกกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยรวดเร็วที่สุดในรอบ 26 ปี กำลังผลักดันให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเร่งผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

กระทรวงแรงงานสหรัฐที่เปิดเผยว่า ระบุว่า ตัวเลขตัวเลขจ้างงานเดือนธ.ค.ปี 2551 ร่วงลง 524,000 ตำแหน่ง ทำให้ตัวเลขว่างงานโดยรวมตลอดปี 2551 พุ่งขึ้นเป็น 2.6 ล้านตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี

ผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยสมาคมธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NABE) บ่งชี้ว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าบริษัทเอกชนทั่วโลกจะลดการจ้างงานลงอีกในอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยซารา จอห์นสัน หัวหน้านักวิเคราะห์ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการสำรวจให้กับ NABE กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2550 อาจจะลุกลามต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้และจะส่งผลให้ตัวเลขว่างงานพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง สำนักข่าวเอพีรายงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ