เงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นักลงทุนมีความกังวลต่อการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของยุโรปในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่าดัชนีราคาผู้ผลิตของยุโปรจะลดลงเป็นเดือนที่ 5 และข้อมูลดังกล่าวจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ธนาคารใช้ในการปรับลดดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเป็นวันที่สาม ขณะที่เงินปอนด์อังกฤษร่วงลงหนักสุดในรอบ 10 วันจากความกังวลว่าธนาคารกลางยุโรปและอังกฤษจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีกท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ด้านเงินเยนแข็งค่าขึ้นเป็นวันที่ 3 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2523 ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจให้เลวร้ายลงอีก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 12.10 น. ตามเวลาโตเกียว เงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2732 ดอลลาร์/ยูโร จาก 1.2813 ดอลลาร์/ยูโรที่ตลาดนิวยอร์กคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา และร่วงลง 0.8% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 114.33 เยน/ยูโร จากระดับ 115.23 เยน/ยูโร ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง 1.2% แตะที่ 1.4365 ดอลลาร์/ปอนด์จากระดับ 1.4540 ดอลลาร์/ปอนด์
เงินเยนพุ่งขึ้นสู่ระดับ 89.83 ดอลลาร์/เยนจากระดับ 89.92 ดอลลาร์/เยน และไต่ระดับขึ้น 1.1% แตะที่ 56.72 ดอลลาร์ออสเตรเลียและแข็งค่า 1.6% แตะระดับ 45.11 ดอลลาร์ออสนิวซีแลนด์
"เงินเฟ้อชะลอตัวและเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนอยู่ในภาวะเลวร้าย" ยูจิ ไซโตะ นักวิเคราะห์จาก Societe Generale SA กล่าว "เงินยูโรมีแนวโน้มจะถูกแรงเทขายออกมาทำให้อ่อนค่าลงไปอยู่ที่ 1.2700 ดอลลาร์/ยูโร และร่วงลงแตะที่ 113 ดอลลาร์/ยูโรในวันนี้"
ทั้งนี้ เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ 12 สกุลเงินในบรรดา 16 สกุลเงินที่ทำการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรา ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตในเขตยูโรโซนจะลดลง 1.2% ในเดือนธ.ค. ต่อเนื่องจากที่ดิ่งลง 1.9% ในเดือนพ.ย. ทั้งนี้ สำนักงานสถิติยุโรปจะเปิดเผยรายงานดังกล่าวในวันพรุ่งนี้