นายโดมินิก สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วหากการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคฟื้นตัวขึ้น โดยมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเฉลี่ยมากกว่า 5%
อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการ IMF เตือนว่าภาวแศรษฐกิจโดยรวมในปี 2552 ยังคงซบเซา โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวเพียง 0.5%ในปี 2551 ซึ่งเศรษฐกิจของชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในเอเชียจะหดตัวลง 0.5%
"เศรษฐกิจโดยรวมขยายตัวในอัตราที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังซบเซาอยู่มาก ทั้งนี้ก็เพราะหลายประเทศในเอเชียพึ่งพาการส่งออกมาเกินไป ดังนั้นเราคาดว่าเศรษฐกิจเอเชียจะยังไม่ฟื้นตัวขึ้นจนกว่าตลาดในฝั่งตะวันตะจะเริ่มฟื้นตัวขึ้น ซึ่งทันทีที่ตลาดในฝั่งตะวันตกฟื้นตัว เศรษฐกิจเอเชียก็จะฟื้นตัวขึ้นด้วย"
"มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และบางประเทศอาจก้าวขึ้นเป็นผู้นำเศรษฐกิจเมื่อระบบต่างๆกลับมาทำงานตามปกติ" สเตราส์-คาห์นกล่าว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้จะหดตัวลง 4% ในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจจีนจะยังคงขยายตัวแข็งแกร่งในอัตรา 6.7% แต่คาดว่าเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 8% อาจเป็นไปได้ยาก
"การที่เศรษฐกิจโลกจะกลับมาขยายตัวได้อีกหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะสามารถรับมือกับปัญหาในภาคการเงินและระบบเศรษฐกิจระดับมหภาคได้ดีเพียงใด เราคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในปี 2553 และสำหรับบางประเทศอาจฟื้นตัวได้ในช่วงปลายปี 2551 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการประเมินเหล่านี้ยังไม่แน่นอนและขึ้นอยู่กับนโยบายที่รัฐบาลจะนำมาใช้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้" ผู้อำนวยการ IMF กล่าว