นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีปัญหาเรื่องเสถียรภาพเงินคงคลัง เพราะขณะนี้ยังมีทุนสำรองอยู่ในระดับที่สูง แต่การอนุมัติกรอบวงเงินกู้จำนวน 270,000 ล้านบาท ที่แบ่งเป็นกู้เงินในประเทศ 2 แสนล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องให้รัฐวิสาหกิจ และกู้เงินต่างประเทศอีก 7 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นเป็นการเตรียมมาตรการสำรองไว้ เพราะรัฐบาลไม่ต้องการทำงานอยู่บนความประมาท โดยเมื่อถึงเวลาจำเป็นก็สามารถดำเนินการได้ทันที
พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะปรับปรุงหลักเกณฑ์การนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมาใช้สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า รัฐบาลยังไม่ทิ้งแนวทางการส่งเสริมการออมของประชาชน เพียงแต่เบื้องต้นรัฐบาลจำเป็นต้องรักษาระดับการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อไม่ให้กระทบกับรายได้ และยืนยันว่ารัฐบาลจะพยายามดูแลไม่ให้เกิดปัญหาเงินฝืด หลังจากอัตราเงินเฟ้อในเดือน ม.ค.52 ติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ซึ่งรัฐบาลจะติดตามตัวเลขทางเศรษฐกิจอยู่ตลอดเวลา