เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังจากรัฐบาลรายงานสถานการณ์ในตลาดแรงงานที่ดีเกินคาด ขณะที่เงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบสัปดาห์ หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์จะฟื้นตัวดีขึ้นในเร็วๆนี้
สำนักงานสถิติแห่งชาติของนิวซีแลนด์เปิดเผยว่า อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.6% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์จากโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าจะไต่ระดับขึ้นแตะที่ 4.7%
ทั้งนี้ ณ เวลา 12.49 น. ตามเวลาเวลลิงตัน เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ไต่ระดับขึ้นสู่ 50.95 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 50.68 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และพุ่งขึ้นแตะ 45.60 เยน/ดอลลาร์นิวซีแลนด์จากระดับ 45.12 เยน/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ด้านเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.3% แตะที่ 64.24 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และถีบตัวขึ้น 0.8% แตะที่ 57.47 เยน/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
"เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้นเนื่องจากตัวเลขว่างงานที่ออกมาไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลายคนคาดคิด" นักวิเคราะห์จากเวสท์เปค แบงกิ้ง คอร์ป ในเวลลิงตันกล่าว "อย่างไรก็ตาม เรามองว่าธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในที่ประชุมเดือนมี.ค.นี้เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ"
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวในแง่บวกเกี่ยวกับอุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์มีขึ้นหลังจากที่กลุ่มโรงไฟฟ้าถ่านหินบางแห่งในออสเตรเลียได้ทำข้อตกลงเรื่องราคาใหม่กับโรงไฟฟ้าในเกาหลีใต้ที่ระบุราคาสัญญาระยะ 6 เดิอนและ 1 ปีระหว่าง 70-73 ดอลลาร์/ตัน เพิ่มขึ้นจากระดับของปีก่อนที่ประมาณ 65 ดอลลาร์/ตัน
ส่วนบีเอชพี บิลลิตัน ผู้ผลิตสินแร่เหล็กรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเหล็กในจีนปรับตัวลดลงเนื่องจากผู้บริโภคเริ่มหันกลับเข้ามาในตลาดบ้างแล้ว