ฟอร์ด มอเตอร์ โค (Ford Motor Co) ได้เปิดโต๊ะเจรจาเบื้องต้นเพื่อขายกิจการของวอลโว่ บริษัทรถหรูสัญชาติสวีเดนในเครือให้กับ จีลี่ ออโตโมบิล โฮลดิ้งส์ (Geely Automobile Holdings Ltd.) บริษัทรถยนต์จากประเทศจีน เพื่อเลี่ยงการขอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐ หลังจากที่ยอดขายของบริษัททรุดหนักสุดในรอบเกือบ 27 ปี อีกทั้งยังประสบภาวะขาดทุนเป็นประวัติการณ์ถึง 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา
แหล่งข่าวเผยว่า ฟอร์ดอาจได้รับเงิน 6.4 พันล้านดอลลาร์จากที่ได้ซื้อหุ้นของวอลโว่ไปเมื่อปี 2542 และอ้างว่าการที่บริษัทจีลี่ซื้อกิจการของวอลโว่จะช่วยสนองนโยบายการขยายตลาดในต่างประเทศของบริษัทได้เป็นอย่างดี
ด้านทิม ดันน์ นักวิเคราะห์ตลาดยานยนต์ในเอเชียของเจดี พาวเวอร์ แอนด์ แอซโซซิเอทส์ กล่าวถึงความเป็นไปได้ของจีลี่ ค่ายรถยนต์ของจีนที่ก่อตั้งมานาน 20 ปีภายใต้การดูแลของหลี่ ซูฟูว่า "ลีมีความเป็นนักธุรกิจอย่างเต็มตัว ดังนั้นการเจรจาระหว่างฟอร์ดกับจีลี่อาจประสบความสำเร็จ"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีลี่เป็นเป้าหมายแรกที่ฟอร์ดต้องการเจรจาเพื่อขายกิจการวอลโว่เมื่อปีที่แล้ว โดยการเจรจาเบื้องต้นได้เริ่มต้นขึ้นในเดือนธ.ค.หลังจากที่ฟอร์ดเปิดเผยว่าจะพิจารณาขายกิจการของวอลโว่ ที่กำลังเผชิญวิกฤตอย่างหนักท่ามกลางภาวะตลาดยานยนต์ทั่วโลกตกต่ำ
โดยยอดขายของวอลโว่ในสหรัฐปรับตัวลดลง 64% เมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่ฟอร์ดรายงานตัวเลขขาดทุนก่อนหักภาษีที่ 736 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 4
ขณะที่ในปี 2551 ยอดขายรถของจีลี่ในประเทศจีนลดลง 1% ส่วนยอดขายในตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้น 7% ซึ่งนายหลี่เชื่อมั่นว่า ยอดขายของจีลี่จะเพิ่มขึ้นอีก 25% ในปีนี้