ยูนิลีเวอร์ บริษัทผลิตสินค้าผู้บริโภครายใหญ่อันดับ 2 ของโลก กล่าวว่าไม่ควรคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2552 ไปจนถึงปี 2553 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังขาดเสถียรภาพ
"เมื่อพิจารณาจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ผมเห็นว่าเราไม่ควรคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ยาวไปจนถึงปีหน้า" พอล โพลแมน ซีอีโอของบริษัท กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทเปิดเผยว่ามีกำไรเพิ่มขึ้น 58% ในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.14 พันล้านยูโร (1.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือ 39 เซนต์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 721 ล้านยูโร หรือ 24 เซนต์ต่อหุ้นในปีก่อนหน้า ในขณะที่ยอดขายปรับตัวสูงขึ้น 4% แตะ 1.05 หมื่นล้านยูโร
ส่วนยอดขายไม่นับรวมความผันผวนของค่าเงินและการซื้อ มีการขยายตัว 7.3% ในไตรมาส 4 น้อยกว่าไตรมาส 3 ซึ่งขยายตัว 8.3%
"ยูนิลีเวอร์จำเป็นต้องลดต้นทุนการผลิตเพิ่มเติมและลงทุนในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อแข่งขันกับสินค้าแบรนด์อื่นในยุโรป" นักวิเคราะห์จากบริษัทเคปเลอร์ ในอัมสเตอร์ดัม กล่าว "อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจขยายตัวได้ในระยะยาวในตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะเอเชีย" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน