ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบยูโร,เยน หลังตลาดหุ้นดีดแรงหนุนนลท.แห่ซื้อดอลล์

ข่าวต่างประเทศ Friday February 6, 2009 07:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) เนื่องจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นกว่า 100 จุดได้กระตุ้นให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อดอลลาร์อย่างคึกคัก ขณะที่สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ระบุว่าเศรษฐกิจในยุโรปมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 91.130 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 89.460 เยน/ดอลลาร์ และดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1704 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1599 ฟรังค์/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.2784 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.2828 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.4620 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4448 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.6525 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพุธที่ 0.6428 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 0.5163 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5062 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

เดวิด กิลมอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท ฟอเรนจ์ เอ็กซ์เชนจ์ อนาไลติก กล่าวว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้น หลังจากบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ วอล-มาร์ท และเมซีส์ เปิดเผยยอดขายที่แข็งแกร่งเกินคาด รวมทั้งความเชื่อมั่นที่ว่าวุฒิสภาสหรัฐจะผ่านแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจของคณะทำงานของบารัค โอบามา หลังจากวุฒิสภาสหรัฐลงมติให้คงข้อกำหนด "Buy American" ไว้ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินเกือบ 9 แสนล้านดอลลาร์ แม้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มประเทศคู่ค้ารายใหญ่อย่างแคนาดาและยุโรปก็ตาม

สกุลเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแม้ธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1% ในการประชุมเมื่อเย็นวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ส่วนใหญ่ของนักวิเคราะห์ที่เชื่อว่าแบงก์ชาติอังกฤษจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

ส่วนเงินยูโรอ่อนตัวลงหลังจากอีซีบีประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานอีซีบีระบุว่า เศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มชะลอตัวลงอีกเนื่องจากภาคเอกชนลดการจ้างงานและโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งปิดการดำเนินงานเพราะถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย

จิม ทัคเกอร์ ที่ปรึกษาประจำ KPMG บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลกคาดการณ์ว่า อาจมีบริษัทอังกฤษมากถึง 5,000 แห่งล้มละลายในปีนี้เพราะถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยบริษัทจำน่ายสินค้าเพื่อผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบหนักกว่าอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับต่ำมาก และยอดขายในเดือนม.ค.ปีนี้ ทรุดตัวลงมากถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับเดือนม.ค.ปี 2551

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) เดือนม.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์นี้ หลังจาก ADP Employer Services เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า ภาคเอกชนในสหรัฐลดการจ้างงานลง 522,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ