นายธาตรี ริ้วเจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์การ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ปี 52 กฟผ.มีแผนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนอีกจำนวน 80 เมกกะวัตต์ โดยใช้งบลงทุน 2,680 ล้านบาท เช่น การผลิตพลังงานจากลม แสงอาทิตย์และน้ำท้ายเขื่อน โดยพลังงานลมจะจัดซื้ออุปกรณ์กังหันลมจากจีนมาติดตั้งบริเวณเขื่อนลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 2 ตัว กำลังการผลิตไฟฟ้าตัวละ 1.25 เมกกะวัตต์ ซึ่งกังหันลมตัวแรกคาดว่าจะติดตั้งเสร็จภายใน มี.ค. 52
ส่วนการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ อยูระหว่างการคิดค้นเทคโนโลยี เพื่อให้แผงโซลาเซลล์หมุนตามทิศทางแสงอาทิตย์ได้สำเร็จ หลังจากที่ใช้เวลาวิจัยนานถึง 10 ปี เพื่อช่วยเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ได้มากขึ้นประมาณ 1 เมกกะวัตต์ ติดตั้งอยู่ที่เขื่อนสิริธร จ.อุบลราชธานี คาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ได้ภายในปลายปีนี้
นายธาตรี กล่าวอีกว่า กฟผ.ยังเตรียมลงทุนสร้างและติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็กท้ายเขื่อนใน 6 เขื่อน คือ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนแม่กลอง เขื่อนนเรศวร และเขื่อนแควน้อย คาดว่ามีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 78.8 เมกกะวัตต์