สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าวสาลีที่จีนเป็นประเทศผู้เพาะปลูกรายใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจส่งออก และเป็นอุปสรรคต่อความพยายามของรัฐบาลในการกระตุ้นรายได้ให้กับชาวจีนในชนบทในช่วงที่มีแรงงานอพยพสูงถึง 20 ล้านคนตกงาน
ขณะที่ประธานาธิบดีหู จิ่น เทา และนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีนได้สั่งการให้ทุกฝ่ายทุ่มเทความพยายามในการแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างสุดความสามารถ
ราคาข้าวสาลีถีบตัวสูงขึ้นในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อวานนี้ หลังพื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีในจีนกว่า 46% ได้รับความเสียหาย โดย ณ เวลา 09.00 น. ตามเวลาสิงคโปร์ สัญญาข้าวสาลีที่ตลาด CBOT ส่งมอบเดือนมี.ค.ไต่ระดับขึ้น 0.2% แตะที่ 5.63 ดอลลาร์/บุชเชล
ทั้งนี้ พื้นที่ทางตอนเหนือของจีนได้รับผลกระทบจากวิกฤตภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี ซึ่งทางสภาแห่งชาติจีนได้จัดสรรเงิน 300 ล้านหยวน (44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) สมทบในกองทุนบรรเทาภัยแล้งเพิ่มจากที่ได้จัดสรรไปในก่อนหน้านี้ 100 ล้านหยวน