ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) คาดการณ์ในวันนี้ว่า ตลาดพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ของเอเชียจะขยายตัวขึ้นในปีนี้ อีกทั้งคาดว่ารัฐบาลในหลายประเทศอาจขายตราสารหนี้เพื่อระบายสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และบริษัทหลายแห่งในเอเชียอาจต้องระดมเม็ดเงินทุนใหม่ๆจากตลาดภายในประเทศ
จอง-วา ลี ผู้อำนวยการสำนักงานระบบเศรษฐกิจประจำภูมิภาคของ ADB กล่าวว่า ตลาดพันธบัตรในเอเชียมีโอกาสที่จะขยายตัวได้อีก เนื่องจากรัฐบาลมีการพัฒนาระบบการซื้อขายในตลาดพันธบัตร โดยคาดว่าตลาดพันธบัตรในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และ 10 ชาติสมาชิกอาเซียน รวมถึงจีน ฮ่องกง และเกาหลีใต้ ยังคงขยายตัวได้ดีแม้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงก็ตาม
รายงานของ ADB ระบุว่า ณ ช่วงปลายปี 2551 พันธบัตรสกุลเงินเอเชียที่ยังไม่ครบกำหนดไถ่ถอนมีมูลค่าทั้งสิ้น 3.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าระดับของปี 2550 อยู่ราว 14.9% โดยจีนซึ่งถือครองพันธบัตรที่ยังไม่ครบกำหนดไถ่ถอนอยู่ถึง 2.2. ล้านล้านดอลลาร์ ยังคงครองอันดับ 1 ในฐานะผู้ออกพันธบัตรรายใหญ่สุดในเอเชีย
อย่างไรก็ตาม ADB เตือนว่าความเสี่ยงจากการลงทุนในพันธบัตรอาจส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพุ่งสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทเอกชนที่เผชิญความเสี่ยงด้านการเงินอยู่แล้วนั้น มีต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นตามไปด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน