ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดหนุ่มสาวชาวกรุงใช้เงินช่วงวาเลนไทน์ปีนี้ลดลงตามสภาพศก.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 10, 2009 15:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยผลการสำรวจ“พฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาล วาเลนไทน์ปี 52"จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นเยาวชน นิสิตนักศึกษาและกลุ่มผู้ที่เพิ่งจะเริ่มเข้าทำงาน คาดว่าในปีนี้จะมีเม็ดเงินสะพัดทั่วกรุงเทพฯในช่วงวันวาเลนไทน์ ประมาณ 940 ล้านบาท ลดลง 3% เมื่อเทียบปี 51 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังซบเซา ทำให้ผู้บริโภคเน้นประหยัด ลดการจับจ่ายใช้สอย เพราะยังวิตกกังวลเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตและความมั่นคงในหน้าที่การงาน

อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์ทั้งประเทศจะมีเม็ดเงินสะพัดในช่วงวันวาเลนไทน์ปีนี้ ที่ประมาณ 1,880 ล้านบาท โดยคำนวณจากเม็ดเงินสะพัดของคนกรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นผู้กระจายเม็ดเงินให้สะพัด 50% ของปริมาณเม็ดเงินทั้งประเทศในช่วงวันวาเลนไทน์

ปีนี้วันวาเลนไทน์ตรงกับวันเสาร์ ทำให้คาดหมายว่ากิจกรรมต่างๆในวันวาเลนไทน์ปีนี้จะคึกคักตั้งแต่ช่วงวันที่ 7-9 ก.พ. ซึ่งเป็นวันหยุดยาว โดยบรรดาผู้ที่ให้ความสำคัญกับเทศกาลวาเลนไทน์ต่างนัดหมายกันไปจับจ่ายซื้อของกันล่วงหน้า

ทั้งนี้ ในยุคเศรษฐกิจซบเซาทำให้ผู้บริโภคเน้นประหยัดรายจ่าย ทำให้ผู้บริโภคหันมาจัดอันดับความสำคัญของกิจกรรมในวันวาเลนไทน์ โดยกิจกรรมที่มีความสำคัญมาก คือ การมอบดอกไม้ให้กับผู้เป็นที่รักและการรับประทานอาหารร่วมกัน แต่งบประมาณที่มีจำกัด ทำให้ต้องมีการลดค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ ที่เหลือ ซึ่งถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าจากการสำรวจช่วงวันวาเลนไทน์ปีนี้ พบว่าคนกรุงเทพฯ 34% เลือกซื้อช็อคโกแล็ต 32.7% เลือกซื้อดอกไม้และซื้อการ์ด 9.3% ประดิษฐ์สิ่งของเอง 7.1% เลือกซื้อของจากร้านกิ๊ฟช็อป 6.2% ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ปีนี้ป็นปีแรกที่คนกรุงเทพฯ เลือกซื้อช็อคโกแล็ตในวันวาเลนไทน์ มากกว่าซื้อดอกไม้

โดยพบว่าปีนี้จะมีการใช้จ่ายซื้อช็อคโกแลตปีนี้เฉลี่ย 290 บาท/คน น้อยกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ 320 บาท/คน แต่เป็นเม็ดเงินใช้จ่ายรวม 300 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายซื้อดอกไม้อยู่ที่ 253 บาท/คน จากปีก่อนอยู่ที่ 250 บาท/คน แต่เม็ดเงินใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 230 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ