นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้ประกอบการรถร่วมบริการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) คัดค้านโครงการเช่ารถโดยสารใช้เอ็นจีวีจำนวน 4,000 คัน และให้ปรับลดจำนวนเหลือเพียง 3,500 คันว่า ในวันนี้ (10 ก.พ.)จะประชุมร่วมกับผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก. เพื่อที่จะรับฟังปัญหา และสร้างความเข้าใจในรายละเอียดของโครงการเช่ารถโดยสารใช้เอ็นจีวี จำนวน 4,000 คัน
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการเช่ารถโดยสารจำนวน 4,000 คันตามนโยบายถือว่ามีความเหมาะสมและจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก.โดยการพิจารณาข้อเสนอปรับลดจำนวนรถโดยสารใช้เอ็นจีวีจะต้องคำนึงถึงการให้บริการประชาชนด้วยว่าจำนวนรถโดยสารมีเพียงพอกับความต้องการหรือไม่
ด้านนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานกรรมการ ขสมก. กล่าวว่า จำนวนรถโดยสารใช้เอ็นจีวี จำนวน 4,000 คัน ถือว่ามีความเหมาะสม และได้ปรับลดลงจากเดิมที่มีความต้องการรถโดยสารถึง 6,000 คัน และที่ผ่านมา ขสมก.ก็เปิดโอกาสให้รถร่วมที่ปรับเปลี่ยนรถโดยสารใหม่ใช้เอ็นจีวีเข้ามาร่วมเดินรถด้วย
ส่วนการต่อสัญญาร่วมเดินรถ ขสมก.นั้น หากผู้ประกอบการรถร่วมปฏิบัติตามขั้นตอน ขสมก.ก็ต่อสัญญาให้ทันที แต่เชื่อว่าที่มีปัญหาเป็นเพราะผู้ประกอบการบางรายติดค้างค่าผลตอบแทน รวมมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา ขสมก. ได้ทวงถามและเจรจาให้ผ่อนชำระ แต่ผู้ประกอบการนิ่งเฉย
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินโครงการเช่ารถโดยสารใช้เอ็นจีวีนั้น ขสมก. ได้ประกาศร่างทีโออาร์ที่ได้ปรับปรุงหลังจากเปิดรับฟังความคิดเห็นแล้ว 4 ครั้ง หลังจากนี้จะเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาเพื่ออนุมัติร่างทีโออาร์ก่อนนำไปประกาศประกวดราคา โดยจะมีการพิจารณาในสัปดาห์หน้า