นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า ธปท.คงไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรที่ออกเพื่อชดเชยภาระขาดทุนให้กับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน แทนกระทรวงการคลังได้ แต่ก็กำลังหาแนวทางอื่นว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง โดยอาจจำเป็นก็อาจต้องมีการแก้ไขข้อกฎหมาย
“ถ้ารัฐบาลจะให้ธปท.รับภาระจ่ายดอกเบี้ยกองทุนฟื้นฟูฯ ต้องดึงเงินจากบัญชีสำรองพิเศษ เงินหลวงตามหาบัวก็อยู่ในบัญชีนี้ ธปท.ก็เข้าใจว่ารัฐบาลต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะหากขาดดุลมาก ๆ ก็อาจไปติดสัดส่วนเพดานหนี้ต่างๆ ที่ตั้งไว้ แต่การที่ ธปท.จะให้ใช้หนี้ดอกเบี้ยทั้งหมด คงทำไม่ได้ เพราะต้องจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรของ ธปท.เองด้วย"นางสุชาดา กล่าว
ทั้งนี้ ภาระหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ จำนวน 1.4 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 กอง คือ กองแรกวงเงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งตามกฎหมายกำหนดให้ชำระโดยกำไรสุทธิของ ธปท. ส่วนกองที่ 2 ภาระหนี้ 1.12 แสนล้านบาท และ กองที่ 3 จำนวน 7.76 แสนล้านบาท ทั้งสองกองหลังนี้ ตามกฎหมายกำหนดให้เงินจากบัญชีผลประโยชน์ประจำปีของ ธปท.มาชำระหนี้
สำหรับภาระดอกเบี้ยของพันธบัตรในส่วนนี้อยู่ที่ประมาณปีละ 7.6 หมื่นล้านบาท