บมจ.ปตท.(PTT) เชื่อราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ในตลาดโลกจะไม่ปรับเพิ่มขึ้นอีก หลังจากราคาดีดขึ้นมาแตะที่ระดับ 505-510 ดอลลาร์/ตันในเดือน ก.พ.นี้ เนื่องจากมีพลังงานทางเลือกอื่น ขณะที่ปตท.แบกภาระจากการนำเข้าแอลพีจีในปัจจุบันเกือบเต็มเพดาน 1 หมื่นล้านบาทแล้ว
"แนวโน้มราคาหลังจากนี้ไม่น่าจะขยับเพิ่มมากนัก เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงมากจากระดับ 40 บาทต่อลิตรเมื่อปีที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ที่ 10-20 บาทต่อลิตร ทำให้มีเชื้อเพลิงตัวเลือกในตลาดมากขึ้น ราคาแอลพีจีคงปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนัก" นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ PTT กล่าว
นายจิตรพงษ์ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ ปตท.ยังไม่ได้รับชดเชยการรับภาระนำเข้าแอลพีจีจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งขณะนี้ภาระดังกล่าวใกล้เต็มวงเงินที่เคยอนุมัติไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1 หมื่นล้านบาทแล้ว หากปริมาณการนำเข้ายังคงเพิ่มขึ้นก็จะเป็นภาระของรัฐบาลเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่จะมีการขยายวงเงินนำเข้าแอลพีจีหรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบอร์ด ปตท. และกระทรวงพลังงานจะพิจารณา
ส่วนการปรับขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(เอ็นจีวี) ตามต้นทุนราคาในตลาดโลกนั้น นายจิตรพงษ์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของกระทรวงพลังงานที่จะพิจารณาถึงความเหมาะสม โดยราคาเอ็นจีวีในปัจจุบันยังต่ำกว่าแอลพีจีอยู่ที่ประมาณ 30-40% หากราคาแอลพีจีเพิ่มขึ้นก็จะทำให้ส่วนต่างราคาเพิ่มขึ้นตามด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะดึงดูดใจให้ประชาชนหันมาใช้เอ็นจีวีมากขึ้น