นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ(ครม.เศรษฐกิจ)อนุมัติการเพิ่มทุนให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) วงเงิน 5,000 ล้านบาท ตามมาตรการลดความเสี่ยงและขยายการค้ำประกันผู้ส่งออก โดยเชื่อว่าจะทำให้ ธสน. ขยายการค้ำประกันการส่งออก ได้เพิ่มขึ้น 100,000-150,000 ล้านบาท ในเวลา 3 ปี โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินการเพิ่มทุนให้เหมาะสมกับเอ็กซิมแบงก์ต่อไป
นอกจากนี้ ได้อนุมัติการเพิ่มทุนให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จำนวน 3,000 ล้านบาท เพื่อให้ บสย. ขยายวงเงินค้ำประกันสินเชื่อผู้ประกอบการ SMEs ได้ 30,000 ล้านบาท และจะทำให้ บสย.ขยายสินเชื่อ ได้ไม่ต่ำกว่า 60,000-100,000 ล้านบาท โดยมอบหมายให้กระทรวงคลังจัดหาแหล่งเงินเพิ่มทุนเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หากสถาบันการเงินทั้ง 2 แห่งมีความเสียหายต่อเนื่องจากภาวะวิกฤติจากการค้ำประกันสินเชื่อตามนโยบายรัฐบาล ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจเห็นชอบให้มีการเบิกงบประมาณชดเชยตามจำนวนที่เกิดขึ้น แต่คาดว่าจะอยู่ในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท
รมว.คลัง กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจได้เห็นชอบมาตรการด้านสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ คือ ธสน. และ บสย. ใน 2 มาตรการหลัก คือ มาตรการลดความเสี่ยงให้ผู้ส่งออก ในการได้รับการชำระเงินค่าสินค้า และลดความเสี่ยงให้ธนาคารของผู้ส่งออก และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ส่งออก ที่ต้องการขยายตลาดส่งออกใหม่ ๆ
ส่วนมาตรการค้ำประกันสินเชื่อ ผ่าน บสย. เป็นการค้ำประกันลักษณะ Portfolio Scheme พิจารณาค้ำประกันเป็นรายกลุ่ม ดำเนินการร่วมกับ บสย.กับสถาบันการเงินอื่นๆ แบ่งสัดส่วนความรับผิดชอบตามความเหมาะสม
"การเพิ่มทุนของสถาบันการเงินของรัฐ 2 แห่ง จะทำให้เสร็จโดยเร็ว คาดว่าจะเป็นการจัดหาแหล่งเงินจากในประเทศ" รมว.คลัง กล่าว