นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.)กล่าวว่าได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ไปศึกษารูปแบบการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลสินค้าเกษตรเป็นรายตัว เช่นเดียวกับคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.)ที่ดูแลสินค้าข้าว โดยคณะกรรมการฯ ชุดใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้นแบ่งเป็น 4 คณะ คือ มันสำปะหลัง ปาล์ม ยางพารา และข้าวโพด
ทั้งนี้ คณะกรรมการแต่ละชุดจะมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีหน้าที่แก้ปัญหาของสินค้าเกษตรแต่ละชนิดให้ครบวงจร ซึ่งระบบ คชก.ในปัจจุบันทำไม่ได้ เช่น การแก้ปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำจะต้องมีกระบวนการแปรรูปเป็นเอทานอล ซึ่งต้องคุยกับ บมจ.ปตท.(PTT) และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อจัดหาคลังเก็บเอทานอล และต้องหารือกับกระทรวงการคลังในการลดภาษีนำเข้ารถยนต์อี 85 เป็นต้น
ขณะเดียวกันแนวทางการบริหารงานรูปแบบใหม่จะต้องหาทางแก้ปัญหาการแทรกแซงราคาสินค้าเกษตรที่ปัจจุบันกลายเป็นการรับประกันราคาไปทั้งหมด เพราะที่คิดว่าเมื่อแทรกแซงแล้วจะทำให้สินค้าราคาดีขึ้น แต่กลับไม่สามารถไปดึงราคาได้จริง และยังไปแทรกแซงในราคาสูงกว่าตลาด ทำให้พ่อค้าไม่ยอมรับซื้อสินค้าจากเกษตรกร และไปรอให้รัฐบาลระบายสต็อกสินค้าที่รับจำนำมาซึ่งจะได้ราคาถูกกว่า
ดังนั้น หลังจากนี้เป็นต้นไปสินค้าเกษตรใดที่รัฐบาลแทรกแซงมาก็จะไม่นำกลับมาขายในประเทศ แต่จะขายออกไปต่างประเทศในรูปแบบของรัฐต่อรัฐ เช่น ข้าวโพด หรือผ่านกระบวนการแปรสภาพ เพื่อไม่ให้สินค้าเกษตรเหล่านั้นกลับคืนเข้าสู่ระบบ ซึ่งจะทำให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นได้จริง และให้การแทรกแซงของรัฐกลายเป็นการแทรกแซงที่แท้จริง