จีนเปิดเผยว่า ยอดปล่อยเงินกู้ใหม่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ในเดือนม.ค. และอุปทานเงินก็มีปริมาณสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่รัฐบาลจีนได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน หรือ 5.85 แสนล้านดอลลาร์
ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ธนาคารได้ขยายยอดปล่อยเงินกู้ใหม่และเงิน M2 มูลค่า 1.62 ล้านล้านหยวน หรือ 2.37 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นมาตรวัดอุปทานเงินที่ครอบคลุมที่สุด นับเป็นตัวเลขที่ปรับตัวขึ้น 18.8% จากระดับปีที่แล้ว นับเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 1 ปี
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุว่า รัฐบาลจีนได้เพิ่มแรงกดดันกับธนาคารต่างๆให้เพิ่มการปล่อยกู้ ในขณะที่รัฐบาลจีนได้เปิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ซึ่งความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากผิดนัดการจ่ายเงินกู้ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สุดต่อธนาคารต่างๆของจีนที่เผชิญกับสถานการณ์ที่ผันผวนในปีนี้ เนื่องจากแนวโน้มที่จะขาดทุนจากสินเชื่อนั้นมีมากขึ้น
ลู ทิง และที.เจ. บอนด์ นักเศรษฐศาสตร์ของเมอร์ริล ลินช์ กล่าวว่า เราเชื่อว่าจีนเป็นเศรษฐกิจประเทศเดียวในโลกที่การปล่อนสินเชื่อแก่บริษัทเอกชนและครัวเรือนขยายตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากเดือนก.ย. 2551 ซึ่งเป็นช่วงที่วิกฤตการเงินย่ำแย่ลงเรื่อยๆ การขยายตัวของการปล่อยสินเชื่อที่พุ่งสูงขึ้นอาจจะทำให้ค่าใช้จ่ายของระบบการธนาคารในอนาคตสูงขึ้น
ทั้งนี้ ยอดการปล่อยเงินกู้ครั้งใหม่ของจีนมีมูลค่าเทียบเท่ากับยอดการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนในสัดส่วน 40%
จีนได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งจะครอบคลุมถึงโครงการที่อยู่อาศัยสาธารณะ ทางรถไฟ ทางหลวง สนามบิน โรงไฟฟ้า และงานก่อสร้าง หลังจากที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่มณฑลเสฉวน