ยอดนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในเดือนม.ค.ปรับตัวลดลง 8% เมื่อเทียบเป็นรายปี เพราะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์น้ำมันดิบที่ซบเซาอันสืบเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
สำนักงานศุลกากรเปิดเผยว่า จีนมียอดนำเข้าน้ำมันดิบ 12.82 ล้านตันในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2550 นอกจากนี้ ปริมาณการนำเข้าน้ำมันยังลดลงเกือบ 11% จากระดับ 14.37 ล้านตันในเดือนธ.ค.2551
ฮาน เสี่ยวผิง นักวิเคราะห์ด้านพลังงานกล่าวว่า "ยอดนำเข้าน้ำมันที่ปรับตัวลดลงจะยิ่งฉุดรั้งราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ต่ำอยู่แล้วให้ยิ่งตกต่ำลงไปอีก" ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์จากมหาวิทยาลัยเซี๊ยะเหมินกล่าวว่า อุปสงค์น้ำมันที่ซบเซาอันมีสาเหตุจากวิกฤตการเงินโลกนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ซึ่งจะทำให้บริษัทด้านปิโตรเคมีของจีนเผชิญอุปสรรคนานับประการในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ อย่างไรก็ตาม ยอดนำเข้าน้ำมันดิบจะเริ่มกระเตื้องขึ้นในช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไป"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อัตราการนำเข้าน้ำมันดิบในช่วงเดือนธ.ค.ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่นักวิเคราะห์ให้เหตุผลว่า จีนซื้อน้ำมันเพื่อเก็บไว้ในคลังสำรอง โดยในปี 2551 จีนนำเข้าน้ำมันดิบทั้งสิ้น 179 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 9.6% จากปีก่อนหน้านี้
สมาคมผู้ผลิตด้านธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ของจีนเปิดเผยว่า ยอดนำเข้าน้ำมันของจีนมีสัดส่วน 48% ของอุปสงค์น้ำมันดิบโดยรวมภายในประเทศ ซึ่งสูงกว่าในปีก่อน 1.8% ขณะที่ผลผลิตน้ำมันดิบของจีนเพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 190 ล้านตันในปี 2551
ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปริมาณการใช้น้ำมันของจีนขยายตัวขึ้น 6% ต่อปี ขณะที่ผลผลิตน้ำมันดิบของจีนยังขยายตัวเฉลี่ยที่ 2% เมื่อเทียบเป็นรายปี