ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบสกุลเงินหลักๆ จากข่าวรบ.สหรัฐเล็งช่วยกลุ่มเจ้าของบ้าน

ข่าวต่างประเทศ Friday February 13, 2009 07:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) เพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังใช้นโยบายช่วยเหลือเจ้าของบ้านที่ประสบปัญหาในการชำระหนี้ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินคาด รวมถึงยอดค้าปลีกและตัวเลขว่างงาน

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 90.900 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 90.430 เยน/ดอลลาร์ และดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.1633 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1585 ฟรังค์/ดอลลาร์

ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.2861 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.2895 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.4254 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4381 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 0.5218 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5254 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.6523 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.6555 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย

อาร์ชาฟ ไลดี นักวิเคราะห์จากซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์กล่าวว่า "นอกเหนือจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดและข่าวที่ว่าภาครัฐจะให้ความช่วยเหลือเจ้าของบ้านที่มีปัญหาในการชำระหนี้แล้ว ความกังวลที่ว่าแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่า 7.89 แสนล้านดอลลาร์จะไม่สามารถพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้นั้น ยังช่วยกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์เพราะเชื่อว่าเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัย"

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงประนีประนอมมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.89 แสนล้านดอลลาร์ และมีกำหนดจะลงมติขั้นตอนสุดท้ายในเร็วๆนี้ ก่อนจะส่งให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดยโอบามามั่นใจว่ามาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจฉบับนี้จะช่วยยับยั้งเศรษฐกิจจากภาวะถดถอยได้

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงาน ลดลง 8,000 ราย เหลือเพียง 623,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.พ. ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1% ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือนและเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2551 หลังร่วง 3% ในเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ