วุฒิสภาออสเตรเลียมีมติผ่านแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (2.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) แล้วในวันนี้ เพื่อยับยั้งเศรษฐกิจไม่ให้เข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ พยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อให้แผนดังกล่าวได้รับความเห็นชอบในวุฒิสภา รวมถึงการเดินหน้าเจรจาเป็นวันที่ 2 กับวุฒิสมาชิกนิค เซโนฟอน แห่งพรรคอินดีเพนเดนท์ หลังจากวุฒิสมาชิกเซโนฟอนซึ่งเป็นแกนนำสำคัญในการคว่ำแผนฟื้นฟูเมื่อวานนี้ และในที่สุดทางรัฐบาลและวุฒิสมาชิกเซโนฟอนสามารถตกลงกันได้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีรัดด์แสดงความจำนงค์ที่จะอัดฉีดเม็ดเงิน 1.27 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลียเข้าช่วยเหลือภาคครัวเรือนและประชาชนที่มีรายได้ต่ำ และจัดสรรงบประมาณการใช้จ่ายมูลค่า 2.88 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลียเพื่อสร้างโรงเรียน ถนนหนทาง โรงพยาบาล และโครงการประหยัดพลังงาน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้รัฐบาลออสเตรเลียมียอดขาดดุลงบประมาณสูงขึ้นด้วย
ขณะที่ธนาคารกลางออสเตรเลียพยายามดำเนินการทุกด้านเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้นในอีกทางหนึ่ง รวมถึงการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 1% สู่ระดับ 4.25% ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา โดยนายเกลน สตีเฟ่น ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียกล่าวว่า เป้าหมายในการลดดอกเบี้ยครั้งนี้ก็เพื่อปกป้องเศรษฐกิจของประเทศให้รอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยและกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและภาคเอกชน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน