ตลาดแรงงานที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ประกอบกับการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ตกต่ำลงเป็นประวัติการณ์ รวมไปถึงมูลค่าหุ้นและราคาบ้านที่ลดลงกลายเป็นแรงกดดันให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย โดยตลาดหุ้นดิ่งลงจากกระแสความวิตกกังวลว่า มาตรการกู้วิกฤตเศรษฐกิจของนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐจะไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะช่วยพยุงให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นได้
นักวิเคราะห์จากบาร์เคลย์ส แคปิตอล ในนิวยอร์กกล่าวว่า "ยอดค้าปลีกยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว ขณะที่ส่วนลดราคาอาจช่วยดึงดูดใจลูกค้าได้บ้างในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ไม่คิดว่าภาวะเช่นนี้จะอยู่ไปได้ตลอด"
ทอม พอร์เซลลี นักวิเคราะห์จาก Castlestone Management Ltd. กล่าวว่า ภาวะตลาดแรงงานที่ซบเซาส่งผลให้การใช้จ่ายเลวร้ายลงตามมา และการกระหน่ำลดราคาสินค้าตามร้านค้าปลีกหลังผ่านพ้นช่วงเทศกาลวันหยุดนั้นสามารถดึงดูดเม็ดเงินนักลงทุนเข้ามาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายยังกังวลว่าภาวะเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งผมตอบได้เลยว่าไม่มีทาง"
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่าอัตราว่างงานของสหรัฐจะทะยานขึ้นสู่ระดับ 8.8% ในช่วง ไตรมาสสุดท้ายของปี จากระดับ 7.6% ในเดือนที่แล้ว