เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค กล่าวในรายงานวันนี้ว่า กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ซึ่งรวมถึงจีนและอีกหลายประเทศในเอเชีย จะเป็นประเทศกลุ่มแรกที่ฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย เนื่องจากรัฐบาลพร้อมใจกันใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เอเดรียน โมวัต ผู้อำนวยฝ่ายยุทศาสตร์ตลาดเกิดใหม่ของเจพีมอร์แกนกล่าวว่า "การปรับลดอัตราดอกเบี้ยและจัดสรรงบประมาณด้านการคลังจะช่วยให้ประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่ฟื้นตัวในที่สุด แม้อัตราการขยายตัวและผลกำไรภาคเอกชนยังคงอ่อนแอลงในช่วงต้นปี 2552 ก็ตาม ข้อมูลในปัจจุบันบ่งชี้ว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเข้าซื้อหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่"
"เราเชื่อว่าหากเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยเต็มรูปแบบ กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่จะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่เผชิญเศรษฐกิจถดถอย และจะเป็นประเทศแรกที่ฟื้นตัวขึ้นก่อน เนื่องจากรัฐบาลในประเทศกลุ่มนี้พร้อมใจกันใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและใช้นโยบายการเงินที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจีนซึ่งโดดเด่นมากในเรื่องการใช้นโยบายแบบนี้" โมวัตกล่าว
เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน หรือ 5.85 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมถึงการจัดหาที่พักอาศัยในราคาต่ำให้กับประชาชน, การสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมถึงถนน ทางรถไฟและสนามบินในชนบท นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะกระตุ้นการจ้างงานและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม ขณะที่ธนาคารกลางจีนได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลืออีกทางด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้งนับตั้งแต่เดือนพ.ย.เป็นต้นมา
"เรามองว่าโอกาสที่ประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะในเอเชีย ปัญหาเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ไม่ใช่เรื่องของ 'วรจร' แต่เป็นเรื่องของ 'โครงสร้าง' กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ดี จึงมีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าประเทศตะวันตก" โมวัตกล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน