ผลสำรวจความคิดเห็นของบริษัทข้ามชาติ 350 แห่งทั่วโลกซึ่งจัดทำโดยเอิร์นส์ แอนด์ ยัง แอลแอลพี บ่งชี้ว่า กว่า 1 ใน 3 ของบริษัทข้ามชาติทั่วโลก กำลังใช้โอกาสในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังถดถอยเป็นยุทธศาสตร์ในการขายหุ้นในบริษัทอื่น โดยระบุว่ากว่า 53% ของบริษัทยุโรปที่เข้าไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ กำลังพิจารณาขายหุ้นในธุรกิจที่ไม่สามารถทำกำไร ขณะที่กว่า 40% ของบริษัททั่วโลกกำลังวางแผนที่จะทำในแบบเดียวกัน
คริสเตียน มูอิลยง หัวหน้าฝ่ายกิจการยุโรป ตะวันออกกลาง อินเดีย และแอฟริกาของเอิร์นส์ แอนด์ ยัง กล่าวว่า ภาวะสินเชื่อตึงตัวทั่วโลกกดดันบริษัทจำนวนมากต้องหาทางออกเพื่อฟื้นฟูสภาพคล่องในองค์กรของตนเอง โดยผลสำรวจระบุว่าเกือบครึ่งหนึ่งของบริษัทที่ตอบรับการสำรวจครั้งนี้ได้ปิดกิจการบางส่วนของตนเองลง ขณะที่กว่า 40% กำลังมองหาทางออกด้านอื่นๆที่รวมถึงการกระตุ้นสภาพคล่องระยะสั้น และอีกกว่า 23% กำลังเจรจาต่อรองเรื่องสัญญาชำระหนี้กับสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้
"นี่ไม่ใช่เวลาที่บริษัทเอกชนจะมัวคิดถึงแต่เรื่องการอนุรักษ์โครงสร้างดั้งเดิมขององค์กรเอาไว้ แต่ผลสำรวจบ่งชี้ว่าบริษัทจำนวนมากกำลังทำทุกวิถีทางที่จะรักษาธุรกิจของตนเองไว้ให้ได้ในยามที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง" มูอิลยงกล่าว
ผลสำรวจบ่งชี้ว่าบริษัทกว่า 80% กำลังหาทางลดต้นทุน และบริษัทเกือบ 2 ใน 3 แห่งได้เริ่มโครงการลดต้นทุนการผลิตไปแล้ว นอกจากนี้ ราวครึ่งหนึ่งของบริษัที่ตอบรับการสำรวจพบว่าความน่าเชื่อถือของบริษัทที่มีในสายตาผู้บริโภคนั้น ถดถอยลง และเกือบ 60% ของบริษัทในยุโรปกล่าวว่า ซัพพลายเออร์ของบริษัทกำลังเผชิญภาวะตึงตัวด้านการเงิน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน