รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางออสเตรเลียประจำวันที่ 3 ก.พ.ผ่านมา บ่งชี้ว่า การที่ธนาคารกลางตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย 1% เหลือเพียง 3.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี และใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) นั้น มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้นภายในปีนี้
"มาตรการที่ธนาคารกลางนำมาใช้ รวมถึงการลดดอกเบี้ยสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปีและงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ จะช่วยพยุงเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย อย่างไรก็ตาม การจะทำให้มาตรการดังกล่าวเห็นผลนั้นคงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง และคาดว่าในระยะใกล้นี้จะเห็นผลในระดับปานกลางเท่านั้น" รายงานการประชุมของธนาคารกลางออสเตรเลียระบุ
รายงานการประชุมครั้งล่าสุดสะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะเข้าสู่ภาวะชะงักงันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากยอดส่งออกสินค้าของออสเตรเลียทรุดตัวลงอย่างหนัก ดังนั้น เพื่อปกกันเศรษฐกิจจากการเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งแรกในรอบ 20 ปี นายเกลน สตีเฟ่นส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียจึงตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือเพียง 3.25% เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา และมีโครงการอัดฉีดเม็ดเงินช่วยเหลือประชาชนครัวเรือนละ 900 ดอลลาร์ในเดือนหน้า
ทั้งนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจภายในประเทศจะขยายตัวเพียง 0.25% ในระยะเวลา 12 เดือนซึ่งสิ้นสุด ณ เดือนมิ.ย. ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 1.5% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน