โซซิเอเต เจนเนอรัล (ซอคเจน) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้วถูกมองว่าจะขยายตัวแข็งแกร่งในสุดในบรรดาชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ กลับกลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจย่ำแย่ที่สุดในเวลานี้ หลังจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2551 ของญี่ปุ่นหดตัวลง 12.7% ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบ 35 ปี และย่ำแย่กว่าเศรษฐกิจในยุโรปและสหรัฐถึง 2 เท่า
วิกฤตการณ์สินเชื่อที่สร้างความเสียหายต่อระบบการเงินสหรัฐเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในช่วงปี 2545-2550 เนื่องจากสหรัฐเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากนี้ ผู้ส่งออกของญี่ปุ่นยังได้รับผลกระทบจากสกุลเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นด้วย โดยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าบริษัทจะขาดทุน 4.50 แสนล้านเยน หรือ 4.9 พันล้านดอลลาร์
"เราคาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเผชิญกับวงจรที่เลวร้าย ซึ่งขณะนี้ญี่ปุ่นกำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจจนถึงระดับโครงสร้างแล้ว และแม้ว่าอัตราการอุปโภคบริโภคทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้นในวันข้างหน้า แต่เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะยังติดอยู่กับวงจรขาลงไปอีกระยะหนึ่ง ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา" เกลนน์ มากีร์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากซอคเจนสาขาฮ่องกงกล่าว
ก่อนหน้านี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัวลง 2.6% ในปี 2552 ซึ่งมากกว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่คาดว่าจะหดตัว 1.6% และยุโรปหดตัวลง 2%
นอกจากนี้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นทรุดตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบ 55 ปีในไตรมาส 4 ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้นรวดเร็วสุดในรอบ 41 ปีในเดือนธ.ค. ส่งผลให้บริษัทเอกชนของญี่ปุ่นลดการจ้างงานจำนวนมากในเดือนที่แล้ว โดยพานาโซนิค คอร์ป, ไพโอเนียร์ คอร์ป, นิสสัน มอเตอร์ และเอ็นอีซี คอร์ป ประกาศปลดพนักงานรวมกันถึง 65,000 ตำแหน่ง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน