พาณิชย์ยอมรับส่งออกม.ค.ติดลบต่อเนื่องกลางปี เครื่องไฟฟ้า-รถยนต์น่าห่วง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 17, 2009 15:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ คาดว่า ตัวเลขการส่งออกสินค้าไทยเดือนม.ค.52 การเติบโตจะติดลบ ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ที่คาดว่าจะส่งออกได้ลดลงจากผลกระทบเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเดือนม.ค.ตัวเลขส่งออกจะติดลบถึง 25% ตามที่มีรายงานข่าวหรือไม่ แต่หากเป็นเช่นนั้นถือว่าเป็นสัญญาณที่น่าห่วง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะพยายามใช้มาตรการกระตุ้นการส่งออกเพื่อให้ตัวเลขช่วงครึ่งปีแรกติดลบน้อยที่สุด

"ตัวเลขส่งออกครึ่งปีแรก คือไตรมาส 1 และ 2 มีแนวโน้มติดลบ แต่หวังว่าครึ่งปีหลังการส่งออกจะขยายตัวเป็นบวกตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทั่วโลกอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปในระบบ ซึ่งจะช่วยให้สถานการณ์การส่งออกครึ่งปีหลังดีขึ้นตามลำดับ"นางพรทิวา กล่าว

ทั้งนี้ คาดว่ากระทรวงพาณิชย์จะประกาศตัวเลขการส่งออกของเดือนม.ค.52 อย่างเป็นทางการในปลายสัปดาห์นี้

นางพรทิวา กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยังคงเป้าหมายการส่งออกปี 52 ที่คาดว่าจะขยายตัว 0-3% โดยจะพยายามไม่ให้ต่ำกว่า 0% โดยล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติบงบประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเรื่องสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งเงินส่วนนี้จะแบ่งมาช่วยเหลือภาคการส่งออกด้วย นอกจากนี้ กระทรวงฯ จะหามาตรการอื่น ๆ เข้ามาช่วยพยุงการส่งออกโดยไม่ต้องใช้งบประมาณด้วย

ด้านนายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ยอมรับว่า ตัวเลขส่งออกสินค้าไทยเดือนม.ค.52 จะขยายตัวติดลบ แต่จะติดลบมากน้อยเพียงใดขอรวบรวมข้อมูลอีก 2-3 วัน จึงจะแถลงตัวเลขส่งออกอย่างเป็นทางการได้ ซึ่งจะทำให้รู้ว่าสินค้าและตลาดใดที่มีปัญหาต่อการส่งออก เพื่อที่กระทรวงพาณิชย์จะได้ใช้มาตรการเข้าช่วยเหลืออย่างตรงจุด

แต่เบื้องต้นคาดว่ากลุ่มสินค้าที่ขยายตัวติดลบ คือ สินค้าในกลุ่มแผงวงจรไฟฟ้า, เครื่องใช้ไฟฟ้า, อิเล็กทรอนิกส์, รถยนต์และส่วนประกอบ ส่วนสินค้ากลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร คาดว่าจะยังขยายตัวได้ดีอยู่

"ที่น่าห่วงคือตัวเลขส่งออกเดือน มิ.ย. และ ก.ค. เพราะช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ไทยสามารถส่งออกใน 2 เดือนนี้ได้ถึง 1.6-1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่สถานการณ์ขณะนี้เปลี่ยนแปลงไปจากภาวะเศรษฐกิจโลก ดังนั้นตัวเลขคาดว่าจะติดลบค่อนข้างแน่" นายศิริพล กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ