นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเพิ่มเติมปริมาณการแทรกแซงผลผลิตทางการเกษตรในฤดูการผลิตปี 51/52 ในสินค้า 3 ประเภทอีกเท่าตัว ทั้งมันสำปะหลัง, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และน้ำมันปาล์มดิบ โดยคาดว่าต้องใช้งบประมาณจากการแทรกแซงทั้งหมดราว 36,875 ล้านบาท
โดยมันสำปะหลังได้เพิ่มปริมาณการรับจำนำเป็น 10 ล้านตัน คิดเป็นวงเงินสินเชื่อรวม 19,625 ล้านบาท, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพิ่มเป็น 1.5 ล้านตัน วงเงินสินเชื่อ 12,750 ล้านบาท และน้ำมันปาล์มดิบ เพิ่มเป็น 2 แสนตัน วงเงินสินเชื่อ 4,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ยอดรวมทั้งหมดสำหรับการแทรกแซงสินค้าเกษตร ที่ประกอบด้วย ข้าว, มันสำปะหลัง, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์, น้ำมันปาล์มดิบและยางพารา รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 119,375 ล้านบาท ซึ่งยังอยู่ในวงเงินที่รัฐบาลกำหนดไว้ และการจ่ายเงินทั้งหมดจะเป็นการจ่ายผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามมติของคณะกรรมการนโยบายและมาตรการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.)ในการเพิ่มปริมาณการรับจำนำมันสำปะหลังและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในโครงการรับจำนำปี 51/52อีกเท่าตัว
ทั้งนี้จะเพิ่มปริมาณการรับจำนำมันสำปะหลังจากเดิม 5 ล้านตันเป็น 10 ล้านตัน ที่ราคารับจำนำ(เดือนก.พ.) 2 บาท/กก.และจะทยอยเพิ่มราคารับซื้ออีกเดือนละ 5 สตางค์/กก.จนถึงเดือนเม.ย.52 ที่สิ้นสุดโครงการ เพิ่มปริมาณการรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเดิม 7.5 แสนตัน เป็น 1.5 ล้านตัน ที่ราคารับจำนำ 8.50 บาท/กก. ส่วนน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มปริมาณการรับจำนำจากเดิม 1 แสนตัน เป็น 2 แสนตัน ที่ราคารับจำนำ 22.50 บาท/กก.