นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากสภาวะเศรษฐกิจไทยและทั่วโลกทีชะลอลงขณะนี้ ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศชะลอตัวลง โดยกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการปรับปรุงแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า(พีดีพี)ใหม่ให้เหมาะสมในการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าในอนาคต
เนื่องจากโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบางโรงอยู่ระหว่างการเปิดประมูล และบางโครงการอยู่ระหว่างการเจรจาจัดซื้อเครื่องจักร หากไม่มีการปรับปรุง อาจส่งผลให้เป็นภาระต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที)ทันที เพราะปัจจุบันกำลังไฟฟ้าสำรองอยู่ในระดับสูงมาก
การปรับปรุงแผนพีดีพีครั้งนี้เป็นการปรับในช่วงระหว่างปี 2552-2557 เท่านั้น ซึ่งจะมีการปลดโรงไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 30 ปีออกจากระบบ และชะลอโรงไฟฟ้าใหม่ของการ กฟผ.บางโรงออกไป รวมทั้งชะลอโครงการของผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่(ไอพีพี)2 รายออกไปอีก 1 ปี และเลื่อนโครงการรับซื้อไฟฟ้าของผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก(เอสพีพี)ให้เร็วขึ้น เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ
ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวอีกว่า การปรับแผนพีดีพีจำเป็นต้องดำเนินการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 8 เดือนถึงจะแล้วเสร็จ โดยระหว่างนี้จะมีการทำประชาพิจารณ์แผนพัฒนาไฟฟ้า ด้วยการเชิญทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมอีกด้วย