องค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) คาดการณ์ว่า ตัวเลขว่างงานในภูมิภาคเอเชียปี 2552 จะพุ่งขึ้น 7.2 ล้านคนจากปีที่แล้ว แตะระดับ 97 ล้านคน เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจที่ลุกลามไปทั่วโลก ส่งผลให้อัตราว่างงานในเอเชียพุ่งขึ้นเป็น 5.1%
แม้ว่าเอเชียจะได้รับการยอมรับว่ามีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งโดดเด่นที่สุดของโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ประชาชนในเอเชียกว่า 1 ใน 3 ยังคงมีค่าครองชีพไม่ถึง 1 ดอลลาร์/วัน และในปีที่แล้วอัตราว่างงานในเอเชียสูงถึง 4.8% โดย ILO ประเมินว่าหากเศรษฐกิจโลกเผชิญวิกฤติรุนแรงกว่านี้ อาจทำให้จำนวนคนตกงานในเอเชียพุ่งขึ้นเป็น 113 ล้านคน หรือพุ่งขึ้น 22.3 ล้านคนจากปีที่แล้ว
"รัฐบาลในประเทศเอเชียจำเป็นต้องกระตุ้นการสร้างงานราว 51 ล้านตำแหน่งในปีนี้ โดยเฉพาะในอินเดียที่มีกระตุ้นการจ้างงานถึง 20.3 ล้านตำแหน่ง, จีน 10.9 ล้านตำแหน่ง และอินโดนีเซีย 3.6 ล้านตำแหน่ง ส่วนประเทศที่คาดว่าจะมีอัตราว่างงานสูงสุดนั้น รวมถึงปากีสถาน 61.% กัมพูชา 4.9% และฟิลิปปินส์ 4.9% อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าโอกาสที่ตัวเลขจ้างงานในเอเชียจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนั้น "แทบจะไม่มี" ในปีนี้" ILO กล่าวในรายงาน The crisis' fallout in Asia
"เอเชียเผชิญกับภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน โดยในแต่ละประเทศมีการจ้างงานน้อยลง และเม็ดเงินส่งกลับบ้านจากประชาชนที่เดินทางไปทำงานในต่างประเทศก็เริ่มถดถอยลงตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2550 ขณะที่ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า จำนวนเงินที่แรงงานต่างชาติส่งกลับประเทศของตนเองจะร่วงลงอีกในปีนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยจำนวนเงินจากแรงงานต่างชาติถูกส่งกลับมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกราว 44% และเอเชียใต้ 28%" ILO ระบุ
นอกจากนี้ ILO กล่าวว่า "คนยากจนในเอเชียจะเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า รวมถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต และภาวะเศรษฐกิจชะงักงันก็จะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนกลุ่มนี้ด้วย ดังนั้น รัฐบาลในประเทศเอเชียต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เน้นการจ้างงานและช่วยภาคครัวเรือนให้มีเงินจับจ่ายใช้สอยต่อไปได้ นอกจากนี้ จะต้องกระตุ้นอัตราการอุปโภคบริโภคภายในประเทศโดยเร็วเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้" สำนักข่าวเอพีรายงาน