จีนออกโรงเรียกร้องให้สหรัฐและยุโรปปกป้องเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ พร้อมประกาศแผนใช้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่มีอยู่มากที่สุดในโลกถึง 1.95 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐช่วยเหลือธุรกิจนำเข้าและการควบรวมกิจการ
ผู้อำนวยการสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตราของจีนกล่าวในการแถลงข่าวว่า "เราหวังว่าประเทศที่มีเงินหยวนในทุนสำรองเงินต่างประเทศเป็นหลักนั้นจะมีมาตรการรับมือกับวิกฤตการเงินที่มีประสิทธิภาพ และจะให้ความร่วมมือในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจ รวมทั้งสามารถปกป้องผลประโยชน์และความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้"
ขณะเดียวกันกระทรวงคลังสหรัฐเปิดเผยว่า จีนมีอัตราการซื้อพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น 46% ในปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 6.962 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีน กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ด้านนโยบายการคลังของจีนพุ่งเป้าที่การรักษามูลค่าของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ
โดยขณะนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 10 ปีไต่ระดับขึ้น 0.44% ไปอยู่ที่ระดับ 2.65% จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าอัตราการกู้เงินจะกระเตื้องขึ้นจากอานิสงส์ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีบารัค โอบามามูลค่า 7.87 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทางสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตราของจีนจะอำนวยความสะดวกให้กับบริษัทที่ต้องการลงทุนในตลาดปริวรรตเงินตราที่กำลังหาลู่ทางขยายธุรกิจไปต่างประเทศ รวมถึงการใช้ทุนสำรองเงินต่างประเทศช่วยเหลือธุรกิจนำเข้า ขณะเดียวกัน จีนอาจเจียดงบจากทุนสำรองเงินต่างประเทศมาใช้ในการจัดตั้งกองทุนน้ำมัน เพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆซื้อธุรกิจในต่างประเทศได้ด้วย