FED ออกรายงานคาดการณ์ศก.สหรัฐหดตัวรุนแรงปีนี้ เตือนอัตราว่างงานอาจพุ่งถึง 8.8%

ข่าวต่างประเทศ Thursday February 19, 2009 09:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และคาดว่าจะหดตัวลงตลอดปี 2552 ขณะที่ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีเสถียรภาพขึ้น

เฟดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวประมาณ 0.5-1.3% ในปีนี้ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวเพียง 0.2-1.1% โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวตลอดทั้งปี 2552 ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวทั้งปีเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี และคาดว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 8.5-8.8% สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 7.1-7.6%

รายงานคาดการณ์ของเฟดมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการสร้างบ้านในเดือนม.ค.ร่วงลง 16.8% เหลือเพียง 466,000 ยูนิตซึ่งเป็น ระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี และเฟดเปิดเผยตัวเลขการผลิตในภาคอุตสาหกรรมร่วงเกินคาด 1.8% ในเดือนม.ค.เพราะได้รับผลกระทบจากผลผลิตรถยนต์ที่ร่วงลงอย่างรุนแรง

เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญช่วงขาลงมากขึ้น ซึ่งทำให้เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ลงอีก 0.75-1.0% เหลือเพียง 0-0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีพ.ศ.2497 จากเดิมที่ระดับ 1.00% นอกจากนี้ เฟดยังประกาศว่าจะขยายวงเงินกู้ฉุกเฉินให้กับภาคเอกชนหากจำเป็น

"เฟดเชื่อว่าแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงอ่อนแอไปอีกระยะหนึ่งและมีความเสี่ยงที่จะเผชิญช่วงขาลงมากขึ้น นอกจากนี้ เฟดคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่ำจนถึงระดับที่จะก่อให้เกิดภาวะเงินฝืดได้ อย่างไรก็ตาม เฟดเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังได้รับผลกระทบในด้านบวกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

เฟดยังคงยืนหยัดในนโยบายสนับสนุนกลไกตลาดการเงินให้กลับมาทำงานได้อย่างปกติ ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน โดยผ่านการแทรกแซงตลาดอย่างเหมาะสม รวมถึงการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน และการให้ความช่วยเหลือภาคส่วนต่างๆที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์

ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 หดตัวลง 0.5% มากกว่าที่คาดว่าจะหดตัวเพียง 0.3% และเป็นสถิติที่หดตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ของปีพ.ศ.2544 ซึ่งเป็นผลมาจากผู้บริโภคลดการจับจ่ายใช้สอย ขณะที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) เดือนพ.ย.ทำสถิติดิ่งลงหนักที่สุดในรอบ 34 ปีที่ระดับ 533,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นแตะที่ 6.7% จากระดับ 6.5% เมื่อเดือนต.ค.

ก่อนหน้านี้ เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดการณ์ว่า ตัวเลขว่างงานในสหรัฐอาจพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 63 ปี เนื่องจากบริษัทรับสร้างบ้าน, บริษัทรถยนต์, ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทค้าปลีก ได้ปลดพนักงานจำนวนมากเพราะถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย

"ตัวเลขที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันประธานาธิบดีบารัค โอบามา เร่งใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกหลายรอบ รวมถึงมาตรการกระตุ้นการจ้างงาน เพื่อยับยั้งเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอยรุนแรง นอกจากนี้ โอบามายังต้องเผชิญความท้าทายในเรื่องการฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์ ภาคการผลิต และภาคบริการ ที่ทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อปีที่แล้ว" ไมเคิล เฟโรลี หัวหน้านักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนกล่าว สำนักข่าวเอพีรายงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ