ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เตรียมประกาศขยายเวลาการซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชน รวมถึงโครงการออกเงินกู้เพิ่มจากเดิมที่กำหนดเส้นตายไว้ในปลายเดือนมี.ค.นี้ เพื่อช่วยบรรเทาภาวะสินเชื่อตึงตัว ที่เป็นผลจากวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยในญี่ปุ่น
นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการบีโอเจและเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเปิดเผยว่า ทางธนาคารต้องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ออกให้กับบริษัทต่างๆมากกว่าที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นที่อยู่ในระดับ 0.1% ซึ่งนักวิเคราะห์จากโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่า ธนาคารจะยังตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมในการประชุมวันนี้
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเผชิญภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2517 จากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวที่กดดันภาคธุรกิจส่งออกและภาคการผลิตให้ซบเซาลง โดยตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 หดตัวลง 12.7% ต่อปี ซึ่งรุนแรงกว่าในสหรัฐและยุโรปถึง 2 เท่า ขณะที่การประกาศลาออกของนายโชอิจิ นาคากาว่า รมว.คลังญี่ปุ่นที่มีอาการมึนเมาในระหว่างการแถลงข่าวในที่ประชุม G-7 ยิ่งส่งผลกระทบต่อความพยายามในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอีกด้วย
หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า บีโอเจอาจประกาศซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนเป็นวงเงินสูงสุดที่ 1 ล้านล้านเยน (1.08 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) รวมทั้งขยายเวลาการซื้อพันธบัตรเชิงพาณิชย์ หลังจากที่ได้เริ่มดำเนินการซื้อตราสารพันธบัตรจากธนาคารเมื่อเดือนที่แล้ว รวมทั้งให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการเข้าซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนเพื่อลดภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าบีโอเจอาจเริ่มซื้อสารเชิงพาณิชย์หรือหลักทรัพย์รัฐบาลระยะสั้นมากขึ้น ตามด้วยการพิจารณาซื้อหุ้นที่สามารถแปลงเป็นหลักทรัพย์และพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มจากเดิม 1.4 ล้านล้านเยน