นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจขณะนี้อาจทำให้ฐานะการเงินภาครัฐเกิดภาวะเงินตึงตัวบ้าง แต่อยู่ในระดับบริหารจัดการได้
ในปีงบประมาณ 53 รัฐบาลจัดทำงบประมาณแบบขาดดุล 390,000 ล้านบาท ขณะที่เพดานการกู้เงินตามกฎหมายอยู่ที่ 430,000 ล้านบาท จึงยังเหลือวงเงินอีก 40,000 ล้านบาทไว้ใช้กรณีฉุกเฉินได้อีก โดยรัฐบาลยังจำเป็นต้องดำเนินนโยบายเพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชนเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ
และในการประชุม รมว.คลังอาเซียน+3 ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ วาระสำคัญของการหารือ คือ การประเมินภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่อประเทศในเอเซีย มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ซึ่งเชื่อว่านโยบายสำคัญของทุกประเทศ คงต้องเดินไปทิศทางเดียวกัน คือกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
ทั้งนี้ การรวมกลุ่มของประเทศเอเซีย ครั้งนี้ ยังจะนำไปสู่การกำหนดจุดยืนของเอเซีย ต่อการประชุม G20 ด้วย นอกจากนี้ ในเวที รมว.คลังอาเซียน + 3 ตนเองจะได้มีโอกาสหารือนอกรอบ กับ รมว.คลังจีน ในประเด็นทวิภาคีอีกมาก