โตโยต้า ค่ายรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกจากญี่ปุ่นเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะระงับการผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่นลงอีก เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของอุปสงค์ทั่วโลกที่ซบเซา ขณะยอดรถค้างสต็อกที่ยังขายไม่ออกมีจำนวนเพิ่มขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานอ้างการเปิดเผยของยูตะ คากะ โฆษกของโตโยต้าว่า ก่อนหน้านี้ โตโยต้าได้ประกาศปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศ 11 แห่งเป็นเวลา 14 วันในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ไปแล้ว และล่าสุดบริษัทตัดสินใจที่จะระงับการผลิตในโรงงานดังกล่าวต่อไปอีก 3 วันในเดือนเม.ย.
"เราจำเป็นต้องปรับตัวตามสถานการณ์ของอุปสงค์ในตลาดโลก และจำเป็นต้องโละรถค้างสต็อกลงด้วย ซึ่งคาดว่ายอดการผลิตรถในประเทศของโตโยต้าช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.จะลดลง 54% จากปีก่อน เหลือเพียง 520,000 คัน" คากะกล่าว
อย่างไรก็ตาม โฆษกของโตโยต้าปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดถึงแผนการผลิตรถยนต์ในเดือนพ.ค. แต่คาดว่ากำลังการผลิตรถยนต์ในช่วงเวลาดังกล่าวอาจมีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ขณะที่ยอดรถค้างสต็อกจะปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ โตโยต้าคาดการณ์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า บริษัทอาจมียอดขาดทุนสุทธิ 3.50 แสนล้านเยน (3.72 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีงบประมาณที่สิ้นสุด ณ เดือนมี.ค.นี้ ซึ่งนับเป็นการขาดทุนสุทธิครั้งแรกตั้งแต่ปี 2493 สวนทางกับที่เคยทำกำไรได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.72 ล้านล้านเยนในปีก่อนหน้านี้ เนื่องจากในปีที่ผ่านมา บริษัทได้รับผลกระทบจากวิกฤตอุปสงค์ยานยนต์ที่ซบเซาโดยเฉพาะในสหรัฐ รวมถึงภาวะเงินเยนแข็งค่าที่บั่นทอนนรายได้จากการส่งออกรถยนต์ไปต่างประเทศ