นายกฯ ชี้หันพึ่งพาตลาดในประเทศมากขึ้นเพื่อรองรับส่งออกหดตัวหนัก

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องพึ่งพาตลาดภายในประเทศมากขึ้นเพื่อรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหลังภาวะการส่งออกในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาหดตัวลดลงอย่างรุนแรง ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อกำลังการผลิตและการจ้างงาน พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

เมื่อวานนี้(19 ก.พ.) กระทรวงพาณิชย์แถลงยอดการส่งออกในเดือน ม.ค.52 ปรับตัวลดลง 26.5% ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดเตรียมโครงการเพื่อรองรับผลกระทบดังกล่าว ได้แก่ โครงการเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งในช่วงแรกจะเน้นการฝึกอบรมสำหรับธุรกิจการส่งออก และธุรกิจการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรายงานตัวเลขที่ชัดเจนว่ามีธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมใดได้รับผลกระทบมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม การหดตัวของภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ไม่ถือว่าเกินความคาดหมาย ซึ่งในหลายประเทศทั่วโลกระบบเศรษฐกิจหดตัวลงถึง 20% และไม่คิดว่าการหาตลาดใหม่ในต่างประเทศจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด เนื่องจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบทั่วโลก คาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ระบบเศรษฐกิจจะดีขึ้นจากการร่วมมือของทุกฝ่าย