นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การเดินทางไปเยือนประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 15-17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเพื่อหารือถึงแนวทางกำหนดราคาข้าวร่วมกัน ซึ่งจากการหารือกับผู้บริหารระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้เสนอที่จะทำบันทึกความเข้าใจ หรือ เอ็มโอยู กับไทย ในด้านความร่วมมือค้าข้าวร่วมกัน โดยจะมีความร่วมมือใน 4 ระดับ คือ ระดับรัฐบาล ระดับผู้ส่งออก ระดับชาวนา และระดับวิชาการ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีของ 2 ประเทศ จะหารือกันอีกครั้งในเรื่องดังกล่าว ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพปลายเดือนนี้ และจะมีการลงนามเอ็มโอยูหลังจากนั้น นอกจากนี้จะมีสายด่วนระหว่างกัน เพื่อปรึกษาหารือเรื่องข้าวเป็นการเฉพาะด้วย
สำหรับราคาข้าวที่จะกำหนดร่วมกันนั้น ในเบื้องต้นได้หารือกันว่า น่าจะอยู่ที่ตันละ 600-700 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในข้าวขาว 4 ชนิดที่ 2 ประเทศมีเหมือนกัน เช่น ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 25% ส่วนข้าวหอมมะลิ หรือข้าวคุณภาพสูงของไทย ไม่ต้องกำหนดราคา เพราะเวียดนามไม่มีข้าวชนิดนี้ จึงไม่สามารถขายตัดราคากันได้
สำหรับสาเหตุที่ไทยและเวียดนามต้องกำหนดราคาข้าวร่วมกัน เนื่องจากเวียดนามมักจะขายข้าวตัดราคาข้าวไทย จนทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกลดต่ำลง และเกษตรกรในประเทศต้องขายข้าวในราคาต่ำลง หากสามารถกำหนดราคาร่วมกันได้จะทำให้เกษตรกรของ 2 ประเทศขายข้าวได้ราคาสูงขึ้น