ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเลือกแกรี่ ล็อกกี้ อดีตผู้ว่าการรัฐวอชิงตันวัย 50 ปีขึ้นรั้งตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์
-- เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงของออสเตรเลียยังคงต้องควบคุมไฟป่าที่ยังคงปะทุในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากอุณหภูมิในประเทศยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องประกอบกับลมที่พัดแรง หลังจากที่ออสเตรเลียพึ่งจะจัดพิธีไว้อาลัยให้กับเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟป่าครั้งรุนแรงสุดในประวัติศาสตร์
-- โกลด์แมน แซคส์ เตรียมลดพนักงานแผนกวิจัยหลักทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่นภายในสัปดาห์นี้ หลังจากประกาศลดพนักงานทั่วโลกประมาณ 10% ของอัตราจ้างงานทั้งหมดเมื่อปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะประคับประคองธุรกิจหลักๆให้อยู่รอดได้ในช่วงที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยและตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนัก
-- เหตุระเบิดกลางตลาดเก่าแก่ในกรุงไคโร สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของอียิปต์ที่มีนักท่องเที่ยววัยรุ่นสาวชาวฝรั่งเศสเสียชีวิต 1 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 รายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ได้ทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวลว่าจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศ
-- ไมครอน เทคโนโลยี อิงค์ ผู้ผลิตเมมโมรีชิปรายใหญ่สุดของสหรัฐ เตรียมปลดพนักงานราว 2,000 คนจากโรงงานในเมืองบอยส์ รัฐไอดาโฮ หลังจากที่ความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ลดลงอย่างต่อเนื่องจนบริษัทต้องขาดทุนกว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 2 ปีงบการเงินที่ผ่านมา
-- ผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดชี้ว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่สนับสนุนการตัดสินใจของประธานาธิบดีบารัค โอบามาในการส่งทหารไปประจำการในอัฟกานิสถานเพิ่มเติมอีก 17,000 นาย แม้จะยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าแผนการดังกล่าวจะได้ผลหรือไม่ก็ตาม
-- ประธานาธิบดี ลี เมียง บัค แห่งรัฐบาลเกาหลีใต้ และนายจามาล ตาลาบานี ประธานาธิบดีอิรัก ได้ลงนามในข้อตกลงแบบไม่มีข้อผูกมัด มูลค่า 3.55 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาบ่อน้ำมันในเมืองบาสราซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิรักและเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำมันดิบสำรองมากที่สุดของประเทศ นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังหาลู่ทางสำรวจบ่อน้ำมันแหล่งอื่นๆในอิรักซึ่งปริมาณน้ำมันดิบสำรองมากเป็นอันดับ 3 ของโลกด้วย
-- เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ธนาคารสหรัฐรายใหญ่ที่สุดอันดับสองของสหรัฐได้ปรับลดการจ่ายส่วนแบ่งเงินปันผลผู้ถือหุ้นลง 87% เหลือ 5 เซนต์/หุ้น ซึ่งนับเป็นการปรับลดเงินปันผลครั้งแรกตั้งแต่ปี 2533 หวังประคองธุรกิจให้อยู่รอด
-- นายเควิน รัดด์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้ออกมาเปิดเผยแผนการช่วยเหลือแรงงานที่มีปัญหาในช่วงที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลงมูลค่า 298.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 192 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแรงงานที่มีปัญหาจะสามารถขอรับความช่วยเหลือได้ทันที โดยโครงการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวจะประกอบด้วยการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอาชีพ การประเมินทักษะต่างๆ และให้สินเชื่อมูลค่า 550 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เพื่อให้การอบรมเกี่ยวกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ และชุดยูนิฟอร์มที่ใช้สำหรับทำงาน