ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคชาวสหรัฐในเดือนก.พ.มีแนวโน้มร่วงลดลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่าตัวเลขการใช้จ่ายจะยิ่งอ่อนแอลงอีก ท่ามกลางอัตราว่างงานที่ปรับตัวสูงขึ้น
นักวิเคราะห์ 69 ท่านจากโพลล์บลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงสู่ระดับ 35 จุดในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มบันทึกข้อมูลในปี 2510 และลดลงจากระดับ 37.7 จุดในเดือนม.ค.
กลุ่มธุรกิจค้าปลีกเช่นเมซีย์ อิงค์ และเจ.ซี. เพนนี โคมีแนวโน้มว่าจะเผชิญช่วงซบเซาอย่างต่อเนื่อง จากผลกระทบของตัวเลขผู้ตกงานที่เพิ่มมากขึ้นจนทำให้ตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนหดตัวลง
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ กำลังเร่งฟื้นคืนความเชื่อมั่นของชาวสหรัฐให้กลับคืนมาผ่านการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เขากล่าวว่าจะช่วยสร้างงานเพิ่มขึ้นกว่า 3 ล้านตำแหน่ง และจะช่วยให้ชาวอเมริกันไม่ต้องถูกยึดบ้านหลุดจำนอง ท่ามกลางภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เลวร้าย
โดยเมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา โอบามาได้ลงนามในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 7.87 แสนล้านดอลลาร์เพื่อบังคับใช้เป็นกฏหมาย ซึ่งแผนการดังกล่าวประกอบด้วยนโยบายลดหย่อนภาษี การเพิ่มตัวเลขการใช้จ่ายในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อช่วยบรรเทาภาวะตึงเครียดทางเศรษฐกิจโดยมีเป้าหมายที่จะสร้างงานให้ได้ 3.5 ล้านตำแหน่ง และในวันที่ 18 ก.พ. รัฐบาลได้ประกาศแผนช่วยเหลือตลาดอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 2.75 แสนล้านดอลลาร์เพื่อป้องกันมิให้ชาวสหรัฐถูกยึดบ้านหลุดจำนองและเพื่อสกัดภาวะตกต่ำของราคาบ้าน
ทั้งนี้ สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดมีกำหนดรายงานข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเวลา 10:00 น.วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น (คืนนี้ตามเวลาในประเทศไทย)