นายศุภรัตน์ ควรหา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นลูกค้าของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)ที่ประสบอุทกภัยในปี 51 จำนวน 3,300 ล้านบาท นอกจากนี้ยังอนุมัติงบประมาณเพื่อชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ของเกษตรกรให้แก่ ธ.ก.ส.ในกรณีต่างๆ
กรณีแรก หากเกษตรกรเสียชีวิตจะจำหน่ายหนี้ออกจากบัญชีให้เป็นหนี้สูญ โดยธ.ก.ส.จะเป็นผู้รับภาระนั้นเอง กรณีสอง หากเกษตรกรประสบอุทกภัยอย่างรุนแรงนั้น เงินกู้เดิมที่มีอยู่ก่อนประสบภัยจะขยายเวลาชำระหนี้เป็น 3 ปี ตั้งแต่ปี 51-53 โดยตั้งงบไว้ 2,771 ล้านบาท 2.ให้เงินกู้ใหม่เพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิต 536 ล้านบาท นอกจากนั้น จะให้กู้รายละไม่เกิน 1 แสนบาท
ส่วนกำหนดการชำระหนี้เงินกู้จะให้เป็นไปตามความสามารถในการชำระหนี้ของเกษตรกร โดย ธ.ก.ส.จะลดหย่อนหลักประกันการกู้เงินให้ดังนี้ กรณีการกู้เงินโดยนำอสังหาริมทรัพย์มาจำนองไว้ ให้ขยายวงเงินกู้จากที่กู้ได้ไม่เกินครึ่งหนึ่งของวงเงินจดทะเบียนจำนอง เป็นให้กู้ได้ไม่เกินวงเงินจดทะเบียนจำนอง
กรณีการกู้เงินโดยใช้กลุ่มลูกค้ารับรองรับผิดชอบ ลูกหนี้ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ให้ขยายวงเงินค้ำประกันจากรายละไม่เกิน 1.5 แสนบาท เป็นรายละไม่เกิน 2 แสนบาท