นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงกรณีที่มูดี้ส์ ระบุว่าเศรษฐกิจไทยอาจจะแย่สุดในเอเซียว่า สศค.เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยยังถือว่าดีกว่าเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจของอีกหลายประเทศในเอเชียที่คาดว่าปีนี้จะติดลบในระดับสูง
ทั้งนี้ จากบทวิเคราะห์ของมูดี้ส์ใน Moody's Economy.com Asia Pacific Outlook ระบุชัดว่าเศรษฐกิจไทยปี 52 ขยายตัวติดลบ 2.38% ขณะที่เศรษฐกิจไต้หวัน ขยายตัวต่ำสุด โดยติดลบ 5.23% เศรษฐกิจญี่ปุ่น ติดลบ 4.8% เศรษฐกิจสิงคโปร์ ติดลบ 4.37% ขณะที่เศรษฐกิจบางประเทศ เช่นอินเดีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ยังขยายตัวเป็นบวกได้
นายเอกนิติ กล่าวว่า มูดี้ส์มองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังอยู่ในภาวะอ่อนแอ จากการที่ไทยพึ่งพาการส่งออกมาก ทำให้เศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัว สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ตาม นายเอกนิติ ได้อ้างบทวิเคราะห์ของมูดี้ส์ เรื่อง Thailand Outlook:Worse Than the 1997 Crisis? ที่มองเศรษฐกิจไทยช่วงเดือนที่ผ่านมา มีแนวโน้มแย่ลง จากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง การปิดสนามบิน และการส่งออกที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก แต่เศรษฐกิจไทยไม่เดือดร้อนมากเท่าช่วงปี 40 เนื่องจากภาคการเงินของไทยยังแข็งแกร่งกว่าปี 40
และยังมีข่าวดีที่ไทยมีรัฐบาลใหม่มาช่วยสร้างเสถียรภาพและสามารถเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติกลับมา แม้จะเผชิญความยากลำบากในช่วงเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วอยู่ในช่วงถดถอย และรัฐบาลใหม่เข้าในสถานภาพของเศรษฐกิจไทยดี จึงเร่งออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างเสถียรภาพการเงินล่วงหน้า
"รายงานของมูดี้ส์ก็ไม่ได้ต่างจากที่สศค.เคยประเมินไว้ว่าเศรษฐกิจไตรมาส 4/51 จะหดตัวมาก เนื่องจากมีเหตุการณ์หลายอย่าง ทั้งการเมืองและการปิดสนามบิน และไตรมาส 1/52 อาจติดลบต่อเนื่อง"นายเอกนิต กล่าว
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก ซึ่งหากเศรษฐกิจโลกหดตัวแรงและฟื้นตัวช้า ก็เป็นเรื่องยากที่เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้เร็ว แต่หากเศรษฐกิจโลกไม่หดตัวแรงและฟื้นตัวได้เร็วในปลายปีนี้ ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยได้รับผลดีตามไปด้วย