นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับสมาคมค้าทองคำจัดโครงการทองธงฟ้า เพื่อจำหน่ายทองคำราคาถูก มีมาตรฐานและน้ำหนักเที่ยงตรงให้กับประชาชน โดยทองธงฟ้าจะจำหน่ายเฉพาะทองรูปพรรณ ลดค่ากำเหน็จบาทละ 100 บาท จากปัจจุบันเฉลี่ยค่ากำเหน็จที่บาทละ 400-700 บาท เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคหาซื้อทองที่มีมาตรฐานและผ่านเครื่องชั่งวัดที่ถูกต้อง และเร็วๆ นี้จะจัดทำสติ๊กเกอร์ทองธงฟ้าไปติดตามร้านค้าทองที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ
พร้อมกันนี้ จะจัดทำแนวทางการปฏิบัติทางการค้า(ไกด์ไลน์)ของผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าทองที่เป็นธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและคุ้มครองผู้บริโภค โดยมีสาระสำคัญ คือ ผู้ค้าทองต้องกำหนราคาที่เป็นธรรม, ต้องปิดป้ายแสดงราคาเป็นเลขอารบิคให้ชัดเจน และมีสูตรคำนวณราคาขายทั้งทองคำแท่ง ทองรูปพรรณอย่างชัดเจน และสมาคมค้าทองคำต้องแจ้งราคาทองที่เปลี่ยนแปลงทุกครั้งให้ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.)ทราบ
นอกจากนี้ กำหนดให้สมาคมกำหนดวันทำการและเวลาเปิด-ปิดร้านให้ชัดเจน รวมถึงกรณีพิเศษที่ไม่ใช่ประเพณีปกติจะต้องแจ้งให้ กกร.ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วัน โดยปิดประกาศให้ลูกค้าเห็นชัดเจน ส่วนใบจองซื้อทองคำแท่งจะต้องมีรายละเอียด ชื่อ/สถานที่ตั้งร้านทอง เลขที่เอกสาร วันที่ซื้อขาย วันกำหนดรับสินค้า ชื่อที่อยู่ผู้ซื้อ พร้อมสำเนาบัตรประชาชน รายการสินค้า น้ำหนัก เงื่อนไขชำระเงิน ห้ามโอนเปลี่ยนมือ และมีรายชื่อผู้มีอำนาจของร้านทอง พร้อมประทับตรา เพื่อป้องกันการเอาเปรียบประชาชน โดยจะเสนอให้ที่ประชุม กกร.พิจารณาวันที่ 2 มี.ค.นี้ ก่อนประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ คาดว่า จะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการทองธงฟ้ามากกว่า 1,000 แห่ง เพื่อช่วยความน่าเชื่อถือในการจำหน่ายทองให้ผู้บริโภค และช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในส่วนทองรูปพรรณที่ขณะนี้มียอดซื้อลดลงมากเหลือเพียง 5% จากเดิมมีสัดส่วน 95%
พร้อมมองว่าราคาทองคำช่วงนี้ยังคงผันผวนค่อนข้างรุนแรง เพราะราคาทองคำในตลาดต่างประเทศปรับลดลง ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงอีก แต่เชื่อว่าในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า ราคาทองคำจะปรับสูงขึ้นอีกได้